Friday, December 26, 2014

ตอนที่4 :ไปแบบนักเรียนทุน ใช้งบน้อย เที่ยวกันยาวๆ



เตรียมตัวกันเถอะ!!!
  
พอหลังจากหาเหตุผล(และข้ออ้าง)ในการที่จะมาเรียนที่ประเทศไต้หวันกันก่อนหน้านี้แล้ว วันนี้จะมาเล่าต่อถึงการเตรียมตัวกันนะครัชช มีบางคนถามมาว่าทำไมต้องถึงขั้นต้องสมัครเรียน ไปแค่เที่ยวแล้วกลับไม่ได้หรอ สำหรับผมตอนที่ตัดสินใจไปเรียนเนี่ยะ ผมเห็นว่าประเทศไต้หวันมันเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออก ไปญี่ปุ่นก็ใกล้ ไปเกาหลีกก็ใกล้ ไปฮ่องกงก็ใกล้ หรือจะอุตริเป็นแรดบิน ไปจิบกาแฟสตาร์บัคที่LA แล้วบินกลับมามันก็ดูจะไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินความเป็นไปได้ ไหนจะประหยัดค่าที่พักเพราะว่าอยู่หอในซึ่งค่าเช่าเมื่อคำนวนค่าที่พักค่านอนค่าน้ำค่าไฟจนแทบจะถูกเหมือนได้นอนฟรีแล้ว(เว่อร์) ยังได้ฝึกภาษาอีกต่างหาก คุ้มสุดคุ้มกับกำลังกระเป๋าขนาดนี้จะหาได้จากที่ไหนอีก!!

ผมจึงตัดสินใจว่า เอาวะ!!! ไปเรียนไต้หวัน ปริญญาก็ได้ เที่ยวก็ได้เที่ยว และจากประสบการณ์เก่าครั้งก่อนที่มา ก็คิดว่าการเที่ยวรอบไต้หวันโดยที่ไม่ได้ภาษาจีนเลยมันก็ไม่ได้ลำบากลำบนอะไรมาก เพราะว่ามีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่เกลื่อนเมือง เลยตัดสินใจว่าจะมาเรียนไต้หวันตั้งแต่ตอนนั้นเบยครัชช

 สำหรับพ่อแม่พี่น้องทุกคนที่เตรียมใจ ตัดสินใจกันแล้วว่าอยากจะไปเรียนที่ประเทศไต้หวัน คำถามที่ตามมาหลังจากนั้นคือ เรียนสาขาอะไรกับ มหาวิทยาลัยไหน ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถึง ม๊ากกกที่สุด ถึงขั้นที่ว่าเลือกผิดคิดจนตัวตาย (มั่ว) ความรู้สึกส่วนตัวผม ณ จุดๆนี้ ผมคิดว่าเรียนจากมหาวิทยาลัยไต้หวันมามันก็เหมือนๆกัน เพราะสุดท้ายแล้วถ้าคิดว่าจะกลับมาหางานต่อที่เมืองไทย เค้าคงถามอย่างเดียวว่า "พูดภาษาจีนได้ไหม" อย่างเดียว เพราะว่าแค่ชื่อมหาวิทยาลัยแต่ละที่ ชื่อแม่งนอกจากจะอ่านยากแล้ว บางทีใบทรานสคริปก็เสือกเป็นภาษาจีนอีก เอากะมันสิเอ๊าาา]

 เหมือนกับหลายมหาวิทยาลัยดังๆระดับโลกที่จะมีสาขาที่เป็นที่เชิดหน้าชูตาของตัวเองอยู่ เหมือนเวลา คิดถึงไส้กรอกชีส ฟุตลองจะคิดถึงเซเว่น เห็นแพนด้าก็คิดถึงสวนสัตว์เชียงใหม่ ประเทศไต้หวันก็เช่นเดียวกันครับ หลายๆมหาวิทยาลัยไม่ได้ติดอันดับ 10 สุดยอดมหาลัยของไต้หวันนั้นไม่ได้หมายความว่า มหาวิทยาลัยนั้นไม่ดี แต่ขึ้นอยู่กับตัวผู้เรียนว่าอยากไปเรียนสาขาไหนวิชาอะไร ชั้นเรียนแบบไหน ไมว่าจะเป็นหลักสูตรปกติ ซึ่งใช้ภาษาจีนในการเรียนแต่ใช้หนังสือเรียนเป็นภาษาอังกฤษ โดยแล้วแต่คณะและภาควิชานั้นๆ หรือจะเรียนแบบนานาชาติ (อินเตอร์นั่นแหล่ะ) โดยที่ใช้หนังสือเรียนและมีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด 


 งานสงกรานต์(วันวัฒนธรรมไทย)ที่มหาวิทยาลัยเฉิงกง จัดโดยสมาคมนักเรียนไทยเฉิงต้าปี 2014 ครับ


สำหรับคนที่เลือกเรียนแบบแรก (หลักสูตรปกติ) ผมขอแนะนำว่า ระดับภาษาจีนก่อนที่จะไปเรียนต้องมีสกิลที่ถือว่าเมพอยู่ในระดับปานกลางค่อนไปทาง เมพมาก เพราะต้องมีการสื่อสารกับเพื่อนร่วมชั้นและอาจารย์ในการทำงานกลุ่มและส่งโปรเจคต่างๆ เพราะว่าขืนเราไปในขณะที่ภาษาจีนยังเป็นงูปลาแพะแกะอยู่ จะกลายเป็นว่าเราจะไปเป็นตัวถ่วงในการทำงานกลุ่มของเพื่อนๆเอา [ลองคิดดูว่า หลายๆคนอ่านหนังสือเสร็จพร้อมใช้ทำงานแล้ว แต่เรายังต้องมานั่งแปลเนื้อหาอยู่ มันดูจืนมิใช่น้อยเลยใช่ไหมครับ-_-"] สำหรับคนที่เลือกไปเรียนหลักสูตรเพิ่มไข่เพิ่มเครื่อง (พิเศษ) ขอแค่ว่าภาษาอังกฤษพอจะใช้ถามทางสั่งข้าวกิน อ่านหนังสือเรียนภาษาอังกฤษแล้วเข้าใจก็ถือว่าเพียงพอแล้ว แต่ต้องมีการพัฒนาและต่อยอดไปด้วยในระหว่างเรียน เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วโปรเจคตัวจบหรือว่า วิทยานิพนธ์ ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการนั่งเทียนไถนาเขียนมันออกมากันนะครับพี่น๊องงงง

 หลังจากที่ผ่านการเลือกหลักสูตรแล้วว่าอยากเรียนสาขาไหน ต่อมาจะเป็นเรื่องของการเลือกมหาวิทยาลัยครับ ซึ่งปกติ จะแบ่งเป็นสองประเภทหลักๆมาตรฐานสากลคือ มหาวิทยาลัยรัฐบาลกับมหาวิทยาลัยเอกชน หลักๆ สิ่งที่แยกสองอย่างนี้ได้อย่างชัดเจน โดยนอกจากความหล่อ/สวยของชื่อมหาวิทยาลัยรัฐบาลที่จะมีคำว่ามหาวิทยาลัยแห่งชาติ (กั๋วลี่國立) ซึ่งส่วนใหญ่ที่อันดับจะสูงกว่ามหาวิทยาลัยเอกชนแล้วยังถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ เข้ายาก ออกยาก”อีกด้วย(เพื่อนบอกมา) บางทีเวลาเดินไปตามท้องตลาดแล้วโดน อาม่าอากงถามว่าเรียนอยู่ที่ไหน พอบอกเค้าไปว่าเรียนมหาวิทยาลัยของรัฐชื่อนู้นนั่นนี่ เค้าถึงกับฮือฮาชมว่าฉลาดกันใหญ่ (รู้สึกหล่อขึ้นมาอีก 10%) และมหาวิทยาลัยแห่งชาติจะมีความขึ้นชื่อในเรื่องความ"ขลัง"ของหอพักครับ ซึ่งหอพักของมหาวิทยาลัยแห่งชาตินั้นจะมีความดึกดำบรรพ์และดั้งเดิมกว่ามหาวิทยาลัยเอกชนหลายแห่งซึ่งสร้างใหม่และมีความไฮโซและน่าอยู่กว่ามหาวิทยาลัยรัฐครับ (ไว้เดี๋ยวจะมาอัพเดตกันในตอนต่อๆไปนะจ้า) 

ข้างล่างนี้จะเป็นลิ๊งอัพเดทอันดับของมหาวิทยาลัยทั่วโลก จัดอันดับโดย  The Times Higher Education World University Rankings ซึ่งเป็นของปี 2016 สามารถดูได้ว่ามหาวิทยาลัยที่เรากำลังสนใจที่จะเรียนอยู่นั้น อยู่อันดับที่เท่าไหร่ของเอเชียและของโลกครับ


https://goo.gl/hR6151

ซึ่งถ้าแต่ละคนอยากทราบสถานะและสภาพความเป็นอยู่ของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยนั้นๆสามารถ เข้าไปสอบถามกันได้ที่เพจ Thai Student Association in Taiwanอครับ เพราะนอกจากตัวเพจจะเป็น ศูนย์รวมในการติดต่อสื่อสารกันระหว่างนักเรียนไทยในไต้หวันแล้ว ยังมีผู้เชี่ยวชาญ กูรู ที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องต่างๆในไต้หวันกันอยู่เต็มไปหมด สามารถเข้าไปสอบถามหาข้อมูลเพิ่มเติมกันได้เต็มที่ และสาขาวิชาต่างๆที่โด่งดังของไต้หวันบางทีก็ไม่ได้ติดอันดับท๊อปเพราะว่ามีสาขาเด่นๆที่แตกต่างกันออกไปครับ
ยกตัวอย่างเช่นที่เมืองไถจง (Taichung)ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ทางตอนกลางของไต้หวัน และเป็นจุดที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวไปรอบไต้หวันได้อย่างสะดวกสบาย จะมีมหาวิทยาลัยเอกชนที่โด่งดังในเรื่องของเกษตรกรรมอันดับต้นๆของไต้หวัน ชื่อว่า


มหาวิทยาลัย National Chung Hsing University (NCHU) 


 โดยที่นั่นจะมีนักศึกษาไทยหลายคนที่ได้รับทุนไปศึกษาในระดับปริญญาต่างๆกันหลายคน และถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับมหาวิทยาลัยในประเทศไทยหลายแห่งอีกด้วย (และแจกทุนเยอะมากด้วย) หรือว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยที่โด่งดังในเรื่องอักษรศาสตร์และภาษาศาสตร์อย่าง

National Taiwan Normal University


 หรือที่รู้จักกันดีว่า ซือต้า"โดยตั้งอยู่ในเมืองหลวงกรุงไทเป เป็นมหาวิทยาลัยที่โด่งดังในเรื่องของการผลิตครูระดับชาติของไต้หวัน และยังเป็นมหาวิทยาลัยที่ขึ้นชื่อที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวันสำหรับชาวต่างชาติที่สนใจมาเรียนภาษาจีนกันที่ไต้หวันครับ หรือสำหรับสายวิศวกรรมศาสตร์ จะเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติเฉิงกง หรือที่รู้จักกันว่าเฉิงต้า 成大 National Cheng Kung University

และถือว่าเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยดังทางตอนใต้ของไต้หวันซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองหลวงเก่าของไต้หวัน เมืองไถหนาน (Tainan) (ขอโฆษณามหาลัยตัวเองหน่อยละกันนะ 555) นอกเหนือจากนี้แล้วยังมีมหาวิทยาลัแห่งชาติที่ดังในเรื่องที่แตกต่างกันออกไปเช่นมหาวิทยาลัยเจิ้งจื้อ National Chengchi University ที่ดังเรื่องหลักสูตรบริหารธุรกิจ หรือ มหาวิทยาลัยเจียวทง National Chiao Tung University ที่ดังเรื่องของวิทยาการคอมพิวเตอร์ และนอกจากเรื่องสาขาเรียนแล้ว ผมคิดว่า สภาพแวดล้อมในการเรียนและสิ่งรอบตัว สังคม สภาพแวดล้อม และ ผู้คนมีส่วนสำคัญที่จะทำให้คนเรารู้ หรือเข้าใจในตัวเองว่า ตัวเองชอบแบบไหน หรือ มีความถนัดในด้านไหน มากกว่าและเร็วกว่าการที่เราค้นหาสิ่งที่เราเป็นด้วยตัวของเราเอง และสามารถส่งผลต่อ ความสุขในการใช้ชีวิตในต่างแดนซึ่งจะออกผลเป็นประสบการณ์ในอนาคต ซึ่งตอนที่ผมเลือกมหาวิทยาลัยที่ผมเรียนอยู่นั้น (*หมายเหตุ*ผมเรียนอยู่ที่National Cheng Kung University ที่เมือง Tainan ครับ) มันมาจากอินเนอร์และความชอบส่วนตัวล้วนๆ ซึ่งหลังจากที่มีเพื่อนแนะนำว่ามหาวิทยาลัยนี้เป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติและอากาศที่เมืองนั้นถูกจริตคนไทยเป็นอย่างมาก บวกกับที่ผมได้มีโอกาสได้ไปเห็นมหาวิทยาลัยนี้ด้วยตัวเองตอนสมัยที่ไปแลกเปลี่ยนระยะสั้น ผมจึงตัดสินใจทันทีว่า กุจะมาเรียนที่มอนี้แหล่ะวะ!!”
 
หลังจากที่เราได้ทำการเลือกว่าอยากจะเรียนมหาวิทยาลัยไหนแล้ว ต่อมาจะเป็นหนึ่งในปัจจัยในการตัดสินใจว่าจะไปเรียน หรือไม่ไปเรียนมหาวิทยาลัยนั้นๆ นั่นก็คือเรื่อง ทุนการศึกษาครับ ผมมั่นใจว่าคนไทยร้อยทั้งร้อย (และหลายชาติอีกหลายร้อย) ต่างก็แสวงหาทุนการศึกษาที่แต่ละมหาวิทยาลัย รัฐบาลและองค์กรในแต่ละประเทศ เสนอทุนให้นักเรียนต่างชาติและต่างด้าวอย่างเราๆได้เรียนกัน 

เหตุผลหนึ่งที่ผมได้ทราบมาว่าทำไม๊ทำไมเค้าถึงยอมออกเงินค่าเล่าเรียนให้ชาวต่างชาติอย่างเราได้เรียนฟรีๆเนี่ยะ ส่วนหนึ่งคือเพื่อที่จะได้โปรโมทตัวของมหาวิทยาลัยว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงถึงกับ ดึงนักศึกษาจากหลายๆประเทศมาเรียน ซึ่งจะนอกจากจะเป็นการฝึกตัวบุคลากรให้ได้มีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษให้มากขึ้นแล้ว ยังทำให้ตัวมหาวิทยาลัยดูมีความไฮโซขึ้นเวลาที่มีชาวต่างชาติหัวแดงหัวทองหัวดมาเดินในมหาวิทยาลัยนั่นเอง โดยทุนการศึกษาที่เค้านิยมแจกกันในประเทศไต้หวันนั้น แบ่งออกได้เป็น 3.5 ประเภทใหญ่ๆตามนี้ครับ 

1. ทุนรัฐบาลไต้หวัน MOFA
โดยหลักๆทุนนี้จะให้ทุนการศึกษามาประมาณ 30,000 TWD ต่อเดือน โดยที่เราจะต้องใช้ในการบริหารในการจ่ายค่าเทอม จ่ายค่าหอพัก และค่ากินค่าอยู่เองครับผม โดยสามารถติดตามรายละเอียดและเงื่อนไข ณ ปัจจุบันได้ตามลิงค์ข้างล่างนี้ครับ
http://www.mofa.gov.tw/en/cp.aspx?n=A5C28AD214C3FD7C

2.ทุนรัฐบาลไต้หวัน MOE  (อัพเดต 11/1/2017)
โดยทุนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทุนที่ขึ้นตรงกับกระทรวงศึกษาธิการไต้หวัน
ซึ่งเราจะต้องมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
TOCFL 4
TOEIC 750
IELTS 6.0
TOEFL 79
GPA: ปริญญาตรี 2.6 ปริญญาโท/เอก 3.0  
ซึ่งทุนนี้จะครอบคลุมรายละเอียดดังนี้
2.1 ค่าเทอมและหน่วยกิต สูงสุดเทอมละ 40,000 TWD โดยถ้าเกินกว่านั้นมหาวิทยาลัยหรือเราอาจจะต้องเป็นผู้ออกเพิ่มเติม

ซึ่งส่วนใหญ่ที่เกินมามหาวิทยาลัยจะออกให้ โดยอาจจะต้องเช็คกับทางมหาวิทยาลัยที่จะไปเข้าเรียนอีกที 
 
2.2 ค่าใช้จ่ายรายเดือน โดยนักศึกษาปริญญาโทและเอก ได้ 20,000 TWD

ซึ่งถ้าอยู่ในเมืองที่ไม่ใช่ไทเปยังไงก็พอครับ แต่ถ้าอยู่ในตัวเมืองไทเปอาจจะจำกัดจำเขียดนิดนึง (ตีเฉลี่ยไปว่าวันนึงอยู่ไทเปใช้วันละ 300 แบบเลขกลมๆ)

และส่วนที่ทุนที่รัฐบาลออกให้จะไม่รวม 


1.ค่าหอพัก : ถ้าอยู่หอใน ในเมืองไทเปจะเฉลี่ยตกเทอมละ 10,000 TWD เดือนละ 2,000~3,000 NTD ค่าน้ำค่าไฟไม่ต้องออก ออกแต่การ์ดสำหรับใช้แอร์ในห้อง
2.ค่าประกันสุขภาพ : นักศึกษาทุกคนจะต้องทำ ซึ่งเลือกได้ว่าจะทำประกันกับมหาลัย หรือบริษัทประกันข้างนอก หรือ ถ้าอยู่ในระยะยาวเราจะได้ทำประกันสุขภาพกับรัฐ(NHI) ซึ่งดีงามและถูก
3.ค่าหนังสือ ค่าตั๋วเครื่องบิน  

โดยสามารถอ่านวิธีการส่งเรื่องได้ดังภาพข้างล่างนี้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Taiwan Education Center Thailand
 

2. ทุนการศึกษา ICDF
สำหรับทุนนี้จะให้ทุนการศึกษาน้อยกว่าทุนของรัฐบาลโดยจะอยู่ที่ประมาณ 17,000 TWD ต่อเดือน แต่ทางโครงการจะดูแลรับผิดชอบในเรื่องของค่าเล่าเรียน ค่าที่พักและค่าใช้จ่ายในการเรียนทุกอย่างให้ แต่จะรับจำนวนที่ค่อนข้างจำกัดมาก เมื่อเทียบกับทุนรัฐบาล รายละเอียดสามารถตามไปเสพกันได้ข้างล่างเลยจ้า
http://www.icdf.org.tw/ct.asp?xItem=12505&CtNode=30316&mp=2

3. ทุนการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยต่างๆ
ถ้าเราไม่ผ่านการคัดเลือกจากโครงการทั้งสองในด้านบนแล้วไซร์ อย่าเสียใจไปเพราะว่าแต่ละมหาวิทยาลัยต่างๆ จะมีโครงการยกเว้นค่าเล่าเรียนให้กับนักศึกษาชาวต่างชาติ โดยมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยหลักๆแล้วจะยกเว้นค่าเล่าเรียน และค่าหอพักให้ และมีเงินทุนการศึกษาให้ใช้ (แต่เป็นแบบเบี้ยน้อยหอยน้อย) โดยจะอยู่ที่ประมาณ 3000-5000 NTD ต่อเดือน โดยบางทีอาจจะมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะงานและเงื่อนไขของแต่ละมหาวิทยาลัย ตัวอย่างของงานที่มักจะเห็นได้บ่อยๆ คือ เด็กเดินเอกสาร พนักงานทำความสะอาดห้องเรียน ผู้ช่วยครูในห้องเรียน และอื่นๆอีกมากมาย

0.5 ทุน พ.. (พ่อกรูหรือ ม.. แม่กรู)
เป็นทุนที่ไม่แนะนำให้ขอเพราะว่าโดยปกติแล้วมหาวิทยาลัยหลายๆแห่งในไต้หวันจะมีโครงการให้ทุนเรียนฟรีกับนักศึกษาค่อนข้างเยอะ เมื่อเทียบกับหลายๆประเทศในเอเชีย เว้นแต่ว่ามหาวิทยาลัยบางแห่ง สามารถตอบรับเราเข้าเรียนได้  แต่จะไม่มีการให้ทุนการศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นมหาวิทยาลัยดังๆของทางรัฐบาล (เห็นเค้าว่าตอนนี้ NTU (National Taiwan University หรือที่รู้จักกันดีว่า ไถต้า台大 ได้ลดจำนวนทุนของนักศึกษาต่างชาติลง ถูกต้องผิดพลาดประการใดขอรบกวนผู้รู้มาคอนเฟิร์มด้วยก๊าบบ )และบวกกับนโยบายของรัฐบาลไต้หวันในสมัยที่ผมเรียน เค้าได้ทำการลดเงินทุนสนับสนุนในส่วนนี้ลง เลยทำให้รุ่นผมเป็นรุ่นที่ได้เงินสนับสนุนต่อเดือนน้อยกว่ารุ่นก่อนหน้า(เศร้าแพรบ)   ซึ่งมันเป็นความพลาดของตัวเองที่คิดว่าทุนของมหาวิทยาลัยก็ถือว่าดีถมแล้ว เพราะเงื่อนไขตอนที่สมัครเรียน เค้ายกเว้นค่าเล่าเรียนกับค่าหอพักของมหาวิทยาลัยให้ ส่วนเราต้องรับผิดชอบแค่ค่าใช้ชีวิตไปวันๆ แต่พอหลังจากที่รู้ว่ามันมีทุนรัฐบาลอยู่บนโลกนี้ จึงทำให้ผมได้ระลึกได้ว่าผมได้พลาดพลั้งโอกาสที่จะเป็นนักเรียนนอกสุดไฮโซ มีคำว่า นักเรียนทุนรัฐบาลพ่วงท้ายกะเค้าไปซะนี่!! ดังนั้นหลังจากที่เลือกมหาวิทยาลัยที่ต้องการจะเข้าไปเรียนแล้ว ผมแนะนำว่าควรศึกษาดูว่ามหาวิทยาลัยนั้น สามารถสมัครทุนอะไรได้บ้าง เพราะว่าแต่ละทุนก็จะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไปจ้า

โดยเพื่อนๆสามารถเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยต่างๆได้ที่เว็บไซต์ของทางฝ่ายวิเทศและฝ่ายดูแลนักศึกษาต่างประเทศ ในไต้หวันเค้าจะเรียกหน่วยงานนี้ว่า OIA (Office of International Affairs) ซึ่งจะดูแลในเรื่องของการรับใบสมัครของนักศึกษาชาวต่างชาติ การประกาศเปิดรับสมัครนักศึกษา และดูแลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนักศึกษาต่างชาติที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยนั้นๆ โดยคีย์เวิดที่ใช้เสิร์ชส่วนใหญ่ก็จะเป็น "OIA และชื่อย่อของมหาลัยนั้นๆเช่น [OIA NCKU] แล้วกูเกิ้ล มันก็จะออกมาเลยจ้า ลองไปหากันดูนะครับ


Highlight Summary:
- ทุนการศึกษาที่แจกสำหรับเรียนที่ไต้หวันส่วนใหญ่จะแบ่งเป็นสองทุนคือทุนจากรัฐบาลไต้หวันและทุนของมหาวิทยาลัย
- มหาวิทยาลัยของรัฐบาลส่วนใหญ่จะอยู่ในอันดับที่สูงกว่าและสามารถช่วยให้หางานได้ง่ายกว่ามหาวิทยาลัยเอกชน (เป็นปัจจัยส่วนหนึ่งเท่านั้น)
- เอกสารยืนยันคะแนนการสอบภาษาอังกฤษต่างๆจำเป็นและควรจะต้องมีคะแนนที่สูงในการที่จะยื่นเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยในไต้หวัน
- ควรมีเงินใช้ส่วนตัวระหว่างที่เรียนด้วยเพราะแต่ละทุนมีจำนวนที่ให้ไม่เท่ากัน




Puipui Adventure
#puipuiadventure



ปล.โพสหน้าจะเป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขอวีซ่าและเตรียมเอกสารนะครัช เขียนดีไม่ดี อยากให้เพิ่มเติมตรงไหน หรือมีข้อติชม ให้ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถฝากคอมเม้นท์กันไว้ได้เลยครับผม ขอบคุณผู้อ่านทุกคนจ้า :D



ตามไปดูชีวิตไร้สาระประจำวันของคนเขียนได้ที่ Instragram: @puipuiiadventure

 

45 comments:

  1. ขอบคุณมากๆนะคะสำหรับข้อมูลไต้หวันและโดยเฉพาะข้อมูลทุน เราหาหลายเว็ปเลยค่ะ หาจนตาลาย มาเจอรายละเอียดทุนในบล็อกคุณดีใจมากเลยค่ะ เราจะต่อป.โท เพราะจบเอกจีนมา ก็เลือกอยู่ว่าจะต่อที่จีนหรือไต้หวันดี ตอนแรกจะไปจีน แต่คิดว่าถ้าไปไต้หวันเราคงมีความสุขกว่าแน่นอน ขอบคุณมากนะคะที่มาแบ่งปันกัน

    ReplyDelete
  2. ด้วยความยินดีครับผม เพราะผมเองตอนแรกก็อยากไปอยู่หลายที่แต่พอคำนวนแล้ว ผมคิดว่าไปไต้หวัน ชีวิตน่าจะดีกว่าเหมือนกันครับ
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ดีต่อกระเป๋าตังค์

    ReplyDelete
  3. ขอบคุณมากเลยนะค้าาา กำลังจะไปต่ออยู่พอดี หาข้อมูลไว้ เผื่อจะได้ช่วยป๊าม๊าลดค่าใช้จ่าย แหะ ๆ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ถ้าภาษาอังกฤษได้อยู่แล้ว และไม่ได้ซีเรียสเรื่องชื่อว่าต้องเป็นทางฝั่งตะวันตก ไต้หวันถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลยครับ :)

      Delete
  4. ที่บ้านกำลังจะส่งไปต่อมหาลัยพอดีเลยค่ะ ;_;
    เคยไปดูNTU กว่าจะหาตึกประชาสัมพันธ์เจอ ใช้เวลาเป็นชม.เลยค่ะ ละปรากฏว่าไม่มีคณะอินเตอร์อีก โอ้ย 55555555 ไต้หวันคณะอินเตอร์น้อยมาก เครียด 5555555555 ถ้าเป็นม.เอกชนมันจะโอเคไหมคะ? แล้วมหาลัยเอกชนที่พอมีชื่อเสียงนี่มีม.ไหนบ้างเอ่ย? ขอบคุณมากๆสำหรับข้อมูลนะคะ ㅠ ㅠ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ถ้าไม่ซีเรียสว่าต้องเป็น มหาลัยรัฐ อันดับดีๆ มหาลัยเอกชนก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนครับ อย่างน้อยๆ facilities จะค่อนข้างดีกว่า อย่างน้อยหอดีกว่าแน่นอนอันนี้คอนเฟิม:)
      สำหรับ มหาลัยเอกชนที่มีชื่อนี่ต้องถามนิดนึงว่าสนใจในสาขาไหนอยู่ครับผม เพราะว่าแต่ละมอเค้าจะมีชื่อดังๆที่ต่างกันออกไปนะครับ อย่างในไทเปจะมีหลายมหาลัยอยู่ หรือว่าถ้าไม่ซีเรียสว่าต้องอยู่ไทเป ที่เมืองอื่นก็มีครับ อย่างของที่ไถหนานที่ผมอยู่จะมีของ Southern Taiwan University of Science and Technology (STUT) ตรงนั้นจะมีหลักสูตร imba เหมือนกันครับผม

      Delete
    2. นี่จะไปอยู่บ้านญาติที่ sanchongอ่ะค่ะ เลยคิดว่าถ้าเป็นม.ในไทเปน่าจะสะดวกกว่า อันนี้จะไปต่อป.ตรีนะคะะ ยังไม่แน่ใจเลยว่าจะเอาคณะไหนเพราะกะจะเลือกจากตัวเลือกคณะอินเตอร์ที่มี แต่ก็สนใจพวกภาษา, การท่องเที่ยว, กับนิเทศอะไรพวกนี้อ่ะค่ะ :D ขอถามนิดนึงนะคะ พี่อยู่หอใช่ไหมเอ่ยยย

      Delete
    3. ตอนสมัยเรียนอยู่หอในครับผมเพราะว่าตอนนั้นทุนที่ได้เป็นทุนของมหาลัยสำหรับ นศ ต่างชาติ หอในเลยเป็นแบบเหมาจ่ายเป็นเทอม (สมัยก่อนทุนเปลี่ยนอยู๋ฟรี) ถ้าพักที่ Sanchong จะค่อนข้างไกลจากตัวเมืองหน่อยถ้าให้สบายแนะนำให้อยู่หอในครับ เพราะว่าค่าเช่าห้อง(อยู่เอง)ที่นี่ค่อนข้างจะสูงมากสำหรับนักศึกษา

      Delete
    4. ใช่ค่ะ ;_; ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ! อาจจะถามเยอะไปนิดต้องขออภัยด้วย 5555555555

      Delete
    5. จัดไปฮะ ถามได้เรื่อยๆ ไม่มีปัญหาครับผม :))

      Delete
  5. ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆๆค่ะปีนี้จะไปแล้วค่ะหาข้อมูลหลายที่แล้วไม่ค่อยเจอคำแนะนำเท่าไรเลยโดยฉะเพราะเอกสารที่ต้องเตรียมไปต่อไต้หวันอ่ะอิอิ^__^

    ReplyDelete
    Replies
    1. ช่วงนี้ผมค่อนข้างยุ่งนิดหน่อยฮะ เลยไม่ได้มีเวลามานั่งเขียนต่อ แต่ถ้ามีคำถาม ถ้าผมตอบได้จะช่วยตอบเรื่อยๆครับ :))

      Delete
  6. ไปต่อปริญญาตรี มหาลัยที่ไต้หวันส่วนใหญ่ใช้เกรดกี่เทอมหรอครับ?
    ผมไม่แน่ใจว่า5หรือ6อ่ะครับ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ส่วนใหญ่เค้าจะดูทรานสคริปที่ถือว่าจบแล้วเป็นหลักนะครับ แต่ว่าปกติแต่ละมหาลัยเค้าจะมีเขียนแจ้งไว้เรียบร้อยครับผม ถ้าเป็นหลักสูตรอินเตอร์ปกติ พิมพ์คำว่า oia นำหน้าตัวย่อมหาลัยจะช่วยให้หารายละเอียดการสอบเข้าง่ายขึ้นครับ เช่นของมอผมเวลาหาก็เป็น oia ncku แล้วกูเกิ้ลเลยครับ

      Delete
  7. แล้วถ้าจะยื่นเกรดไปเรียนใต้หวันแต่เกรดค่อนข้างน้อยมากก จะมีโอกาสติดไหมคะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ส่วนใหญ่ถ้าเป็น ปริญญาโทเค้าจะดูอย่างอื่นประกอบด้วยนะครับพวก โทอิกโทเฟล เคยไปสอบอะไรไว้ หรือว่าอยากให้ความเป็นไปได้มากขึ้น สอบแล้วยื่นไปด้วยก็ดีครับ:)

      Delete
  8. ขอบคุณมากค่ะ กำลังหาข้อมูลพอดีเลย
    อยากไปเรียนภาษาสักปีนึง จะมีทุนเรียนภาษามั๊ยคะ
    กลัวถ้าขอทุนไปเรียน ป.โท แล้วจะยากอ่ะ ภาษาจีนไม่ได้เลย ภาษาอังกฤษก็ snake snake fish fish มากๆ

    ReplyDelete
    Replies
    1. จังหวะนี้ต้องสตรองครับ ถ้าจะไปช่วงนี้หลายๆมหาลัยเค้าเปิดกันแล้วนะครับ อาจจะต้องรีบหารีบสมัคร รีบเตรียมเอกสารกันนิดนึง ของทุนรัฐบาลไต้หวันกับของมอผมตอนนี้เปิดเรียบร้อยแล้วครับ :)

      Delete
  9. ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ
    ผมเพิ่งได้ทุนจากNTU (ค่าเทอม+เดือนละ6000)
    ไม่ทราบว่าค่าใช้จ่ายต่อเดือนสูงไหมครับ
    ผมก็พูดจีนไม่ได้เหมือนกันเห็นบทความนี้แล้วทำให้โล่งใจไปเยอะเลย

    ReplyDelete
    Replies
    1. สวัสดีคร๊าบบ :)
      ขออภัยที่ตอบช้านะครับผม
      ถ้าเป็นกรณีนี้อาจจะต้องลองถามทางมหาวิทยาลัยว่ามีหอในของมหาวิทยาลัยให้พักรึเปล่าครับผม ซึ่งโดยปกติแล้วถ้ามีหอพักภายในจะตกอยู่เทอมละประมาณ 1-1.5หมื่นไต้หวันดอลล่าร์ โดยจะไม่คิดค่าน้ำไฟ โดยจะมีการเก็บเฉพาะค่าใช้งานเครื่องปรับอากาศแต่เพียงอย่างเดียว

      ถ้าอยู่หอนอกจะแบ่งหลักๆออกเป็น 2 ประเภทคือ ห้องน้ำรวมกับห้องน้ำแยกครับ โดยแบบหลังจะมีราคาเฉลี่ยสูงกว่าแบบแรก โดยหอพัก ถ้าอยู่แถวๆ NTU (ขอเรียกว่าไถต้านะครับ) จะมีตัวเลือกที่ค่อนข้างมากและค่อนข้างสะดวกเพราะว่ามีรถไฟฟ้าอยู่ (สายสีเขียวสถานี gongguan)
      ราคาจะมีตั้งแต่เดือนละ 8พันเป็นต้นไป หรือถ้าไม่มายจะอยู่ไกลอีกนิดแล้วนั่งรถไฟฟ้าหรือรถบัสมาเรียนก็ได้ครับผม

      สำหรับค่าใช้จ่ายต่อเดือนโดยเฉลี่ย ผมคิดเฉพาะค่าอาหารจะตกวันละ 300 NTD ครับ(มื้อละ100)โดยอันนี้จะไม่รวมค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่นๆ
      โดยเฉลี่ยถ้าไม่รวมค่าหอผมแนะนำว่าเดือนหนึ่งควรมีประมาณ 1-1.5 หมื่นครับ ซึ่งเบ็ดเสร็จแล้วน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2ถึง2หมื่น5 (นี่คืออยู่ค่อนข้างสบายมีตังค์เหลือเก็บบ้าง) ครับผม

      หวังว่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อยนะครับ :D

      Delete
  10. ขอบคุณที่แบ่งปันข้อมูลกันนะคะ ข้อมูลมีประโยชน์มากๆ ค่ะ

    ตอนนี้เราได้ offer ทุนค่าเรียนจากสองที่คือ NTHU และ NCTU ต่อป.โท ด้าน MBA

    อยากขอคำแนะนำข้อดีข้อเสียของแต่ละที่ เราไม่รู้ว่าจะเลือกที่ไหนดีอะคะ ทั้งสองที่ตั้งอยู่ติดกันที่เมือง Hsinchu

    ขอบคุณล่วงหน้านะคะ ^^

    ReplyDelete
    Replies
    1. จากที่ผมรู้และทราบมา คหสต คิดว่าไม่แตกต่างกันมากระหว่างทั้งสองมอนะครับ เพราะว่าทั้งสองแห่งมี AACSB Accredited เหมือนกันและแจกทุนให้เรียนเหมือนกัน ผมแนะนำว่าให้เข้ากลุ่ม TSAT: Thai student association in Taiwan แล้วลองสอบถามทางศิษย์เก่าโดยตรงเลยน่าจะให้ข้อมูลที่เข้าถึงเป้ามากกว่า แต่ส่วนตัวแล้วเมืองซินจู๋ไม่ได้ไกลจากไทเปมาก นั่งรถ ชม.กว่าๆก็ถึงไทเป ค่าครองชีพสิ่งยวนใจน้อยกว่าแน่นอนครับ

      Delete
  11. สวัสดีค่ะ กำลังหาข้อมูลเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ขึ้นปี4แล้ว อยากจะไปเรียนต่อภาษาที่ไต้หวันสักปี กลัวสอบทุนโทไม่ผ่าน ยากไป 555 พอจะมีทุนเรียนภาษาแนะนำไหมคะ สงสัยเรื่องเรียนที่ไต้หวัน ขออนุญาติคุยไลน์ได้ไหมคะ รบกวนด้วยค่ะ Id line: Jaae.fj

    ReplyDelete
    Replies
    1. สวัสดีครับผม ถ้าไปเรียนภาษา ส่วนใหญ่แล้วจากประสบการณ์ของผมและคนรอบข้าง จะต้องไปสมัครเรียนก่อนนะครับ และหลังจากที่เรียนไปแล้วถึงจะมีสอบทุนภายใน(สอบแข่ง) เพื่อรับทุนการศึกษาอีกทีครับ ส่วนใหญ่ของที่ไต้หวันเท่าที่ทราบสำหรับทุนจะเป็นทุนเพื่อศึกษาปริญญาโท-เอก ซะมากกว่าครับ

      Delete
  12. This comment has been removed by the author.

    ReplyDelete
    Replies
    1. ขอโทษที่ตอบช้านะฮะ พอดีเคยมีพี่คนนึงเค้าเคยไปเรียนโทที่นั่นเลยถามดู แต่ติดต่อไม่ได้ สำหรับเรียนภาษาปกติแล้วหลักสูตรในภาพรวมของสถาบันภาษาของที่นี่ Chinese Language center(CLC) จะใช้หลักสูตรที่เหมือนกัน คือเป็นหนังสือแบบนี้เป็นหลักสูตรหลัก

      https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/736x/1e/9c/0c/1e9c0c616b25eb38d1328fe3107cfaa5.jpg

      ถ้าอยากมีอารมณ์แบบเอาชีวิตรอดผมว่า Feng Chia น่าจะเป็นตัวเลือกที่พอได้ครับ เพราะว่าส่วนใหญ่เด็กที่มาเรียนภาษาจะไปทาง NTNU (National Taiwan normal university) ซือต้า หรือว่า ไถต้า (National Taiwan university)กันสักส่วนใหญ่ แต่ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าจะเรียนภาษาจริงๆควรไปเรียนที่ๆไม่มีคนไทยอยู่หรืออยู่น้อยจะดีกว่าครบ คหสต. :)

      Delete
    2. ปล. Feng Chia ถ้าจำไม่ผิดอยู่ในในเมืองไถจง ปกติเมืองนี้จะใช้รถบัสในการเดินทางเป็นหลัก ยังไงอยู่หนึ่งปีต้องอ่านออกหลายตัวแน่นอน และ ไนท์มาร์เก็ตแถวมหาลัยของอร่อยเยอะฮะ

      Delete
    3. This comment has been removed by the author.

      Delete
    4. This comment has been removed by the author.

      Delete
  13. สวัสดีค่ะ อยากถามว่าทุนMOFAนี้เราสามารถเข้าไปเช็คคณะสาขาหรือมหาวิทยาลัยที่เปิดรับสอนได้ที่ไหนบ้างคะ
    หรือว่าเราสามารถเลือกสาขาคณะและมหาวิทยาลัยอะไรก็ได้ตามที่เราต้องการได้เลย ขอบคุณค่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ถ้าเป็นของ MOFA เท่าที่ทราบจะมีเฉพาะของประเทศในนี้นะครับ

      http://www.mofa.gov.tw/en/AlliesIndex.aspx?n=DF6F8F246049F8D6&sms=A76B7230ADF29736

      ส่วนที่นอกเหนือจากประเทศด้านบนจะเป็นกรณีของ MOE
      รายละเอียดจะตามข้างล่างนี้เลยฮะ

      http://edu.law.moe.gov.tw/EngLawContent.aspx?Type=E&id=250

      มหาวิทยาลัยของรัฐส่วนใหญ่ผมยังไม่เคยเจอกรณีอะไรนะครับผม แต่เด๋วผมถามรุ่นพี่ที่เค้าได้ทุนส่วนนี้อยู่เดี๋ยวยังไงกลับมาเพิ่มเติมให้ครับ :D

      Delete
    2. ขอบคุณนะคะ พอดีตั้งใจจะเข้าเรียนสาชาการสอนจีนภาษาที่สองที่ซือต้า แล้วไปเจอเขามีทั้งทุน MOFA,MOEเลยไม่รู้ว่าจะสมัครทุนไหนดี แล้วซือต้านี่สมัครเข้าชิงทุนยากมั้ยคะ

      Delete
    3. เห็นคนที่เค้าสมัครของ MOE กันส่วนใหญ่เค้าทำทั้งขั้นตอนสมัครแบบปกติและสมัครทุนไปพร้อมๆกันเลยนะครับ สำหรับระดับความยากผมขอแนะนำให้เข้าไปถามจากกรุ๊ป Facebook: TSAT Thai student association in Taiwan เลยจะดีกว่าครับเพราะเด็กรุ่นใหม่ที่พึ่งสอบติดเข้าไปน่าจะกำลังเริ่มเรียนข้อมูลน่าจะอัพเดตกว่าครับผม ขอให้ได้ขอให้โดนครัช:)

      Delete
  14. สวัสดีค่ะ เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากเลยค่ะ ขอสอบถามหน่อยนะคะ พอดีเราอยากเรียน ป.โทวิศวกรรม แต่เกรดจบ ป.ตรี น้อยมาก (2.4) มีคะแนนโทอิค 800 อยากทราบเรื่องการขอทุนของ NCKU พอมีโอกาสเป็นไปได้มั้ยคะ ขอคำแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ

    ReplyDelete
  15. ลองยื่นส่งเข้าไปก่อนได้ครับ ส่วนใหญ่ที่เคยเห็นมาเค้าจะดูจากคะแนนโทอิคเป็นหลักครับ แต่ปกติเค้าจะเอาเกรดมาเรียงสเกลใหม่เป็น 0-100 ถ้าอยากได้รับทุนอย่างน้อยๆต้องได้ที่ 80% gpa เป็นโดยเฉลี่ยนะครับผม

    ReplyDelete
  16. ทุนพวกนี้นี่ถ้าเรียนจบแล้วเราต้องใช้เงินคืนให้กับทางผู้ที่ให้ทุนมาหรือเปล่าคะ แล้วถ้าสมมุติว่าเราได้ทุนไปเรียนต่อ ป.ตรี ที่นั้น 4 ปี ภายใน 4 ปี เราจะสามารถบินกลับมาที่ไทยได้หรือเปล่าคะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ส่วนใหญ่เท่าที่ผมทราบมาไม่ต้องนะครับ เป็นทุนให้เปล่าเลย :)
      อาจจะมีบางอันเวลาเค้าเรียกมีทติ้งตอนอยู่ไต้หวันอาจจะต้องนัดเจอกันบ้าง ไปช่วยงานเค้าบ้านเป็นครั้งคราวครับ

      Delete
  17. ขอสอบถามหน่อยคะพอดีจะไปเรียนต่อที่National Taiwan University of Science and Technology (Taiwan Tech) ดีมั้ยค่ะ ค่าหอพัก กับค่าใช้จ่ายต่อเดือนประมานเท่าไหร่คะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ของ NTUST ที่อยู่ในไทเปใช่ไหมครับ? ปกติถ้าเป็นในไทเปอาจจะต้องดูว่าชอบแบบไหนมากกว่า ถ้าเป็นหอนอกปกติจะแบ่งเป็นแบบ แยกห้องแต่ห้องน้ำรวมหรือว่า มีห้องน้ำส่วนตัวในห้อง ถ้าเป็นแบบแรกจะอยู่ประมาณ 6-9พันครับ แต่ถ้ามีห้องน้ำส่วนตัวอาจจะต้องดูจะมีตั้งแต่ 9พันขึ้นไปครับ สำหรับค่าใช้จ่ายต่อเดือนถ้าไม่นับค่าใช้จ่ายการเรียนปกติจะเฉลี่ยอยู่ที่วันละประมาณ 300-400 บาทก็พอนะครับ (ข้าว3มื้อ เดินทางนิดหน่อย) ที่เหลือก็แล้วแต่ไลฟ์สไตลล์แล้วครับผม

      แนะนำให้ลองไปเข้ากลุ่มใน Facebook: TSAT จะได้สอบถามจากศิษย์ปัจจุบันเพื่อความแม่นยำอีกทีครับ :
      )

      Delete
  18. This comment has been removed by the author.

    ReplyDelete
  19. ขอถามเพิ่มนะคะ มีมหาลัยไหนที่เปิดรับ mba แบบไม่ต้องใช้ประสบการณ์ได้บ้างคะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. จริงๆ ของ NCKU ตอนที่ผมสมัคร ผมก็ไม่มีประสบการณ์เลยเค้าก็รับอยู่ครับ อาจจะลองยื่นไปก่อนก็ได้ครับผมหรืออีเมล์ไปสอบถามทาง OIA ของมหาวิทยาลัยนั้นๆโดยตรงเลยก็ได้ครับ

      Delete
  20. รบกวนช่วยแนะนำการเดินทางจากสนามบินไป ม เฉิงกง หน่อยครับ

    ReplyDelete