หลังจากที่ห่างหายไปเกือบครึ่งปี กลับมาแล้วฮะ ยังไม่หายไปไหน บทนี้จะเป็นบทส่งท้ายในส่วนของการเดินทางและการปรับตัวเข้ากับไต้หวันในแบบฉบับนักศึกษาหลังจากนี้แล้วจะเป็นส่วนของการเข้าห้องเรียนแล้วก็เที่ยว เที่ยว และเที่ยวละครับผม
หลังจากที่เดินทางถึงหอครบ 32 และได้ความช่วยเหลือจากรุ่นน้องคนไทยที่มาถึงก่อนในเรืองของการเปิดห้องในหอพักและลงทะเบียนซึ่งผมโดนบัดดี้ชิ่งตั้งแต่วันที่สองของการที่มาอยู่ไต้หวัน
(ขอบคุณน้องเซ็งมา ณ ที่นี้นะครัช) น้องก็พาไปซื้อเครื่องนอน หมอนผ้าห่มฟูกและสิ่งจำเป็นอื่นๆอีกมากมาย (ซึ่งหอไม่มีมาให้ มีแต่เตียงไม้กระดาน แน่นอน มีแค่หอในมหาลัยโอนลี่เท่านั้นครับ)
ก็ถึงเวลาสำคัญในการสำรวจเมือง(มหาลัย)ว่าไหนๆก็จะอยู่ถึง 2ปี มีกิจกรรมหรือสิ่งยวนใจอะไรที่น่าจะเข้าร่วม และทำตัวย้อนวัยเด็กมหาลัย 18 อีกครั้งมีอะไรกันบ้าง 555555 +
ก็ถึงเวลาสำคัญในการสำรวจเมือง(มหาลัย)ว่าไหนๆก็จะอยู่ถึง 2ปี มีกิจกรรมหรือสิ่งยวนใจอะไรที่น่าจะเข้าร่วม และทำตัวย้อนวัยเด็กมหาลัย 18 อีกครั้งมีอะไรกันบ้าง 555555 +
หลักๆเลยผมมั่นใจว่าทุกมหาลัยจะมีสถานที่ๆเด็กกิจกรรมจะรวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรม
สร้างสัมพันธไมตรี ฝึกฝนฝีมือ และหาคู่รักนักกิจกรรมกันนั่นก็คือ ชมรม
หรือที่หลายๆคนอาจจะรู้จักกันในนามชุมนุม ซึ่งปกติแล้ว ชมรมทั้งหลายแหล่
ไม่ว่าจะเป็น ชมรมวัฒนธรรม ชมรมกีฬา ชมรมดนตรี ชมรมนักสำรวจ ชมรมคนนู่นนี่นั่น ก็เหมือนเป็นจุดศูนย์กลางของนักศึกษา
ที่มีอุดมการณ์ ความชอบและสิ่งที่สนใจเหมือนๆกัน มารู้จักและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆด้วยกัน
ซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีกฎในการตั้งชมรม
หรือการจัดกิจกรรมของชมรมไม่เหมือนกัน ยิ่งมหาวิทยาลัยใหญ่เท่าไหร่
จำนวนชมรมก็จะมีมากขึ้นตามไปด้วย เพื่อนไต้หวันเคยเล่าให้ฟังว่าบางทีถึงขั้นต้องชิงสิทธิ์การเป็นชมรมเป็นทางการกันเลยในแต่ละปี
หากชมรมไหนไม่สามารถสร้างผลงานที่โดดเด่นได้ จำนวนคนไม่เพียงพอ หรือดูแล้วไม่สร้างประโยชน์ในภาพรวม
ก็จะถูกริบสิทธิ์นั้นและมอบให้แก่ชมรมอื่นต่อไป (ริบสิทธิ์ในที่นี้คือการยึดห้องชมรมที่เคยมีอยู่ในอาคารกิจกรรมนักศึกษาออกซะส่วนใหญ่
เพราะว่าจำนวนห้องชมรมมีจำกัด บางมหาลัยอาจใช้สิทธิ์ลงทะเบียนก่อนได้ห้องก่อนก็มี)
**หมายเหตุ**
พวกชมรมที่บ้านเราไม่ค่อยมีอย่างชมรม หมวดผู้คลั่งไคล้ (โอตาคุ) รถถัง/ปืน/การ์ด/การ์ตูน/นู่นนี่นั่น
ที่นี่มีจริงๆนะเออ ทำเป็นเล่นไป!
โดยสโมสรนักศึกษากลางจะเป็นผู้ดูผลการทำงานของแต่ละชมรมในแต่ละภาคการศึกษาว่าได้รับความสนใจจากนักศึกษามากเท่าไหร่
และทางชมรมเองก็ต้องมีการทำรายงาน รายงานผลของชมรมในทุกๆเทอม
นำส่งให้ฝ่ายกิจกรรมนักศึกษาด้วย (เหย็ดดดดดดดด ดูเป็นเรื่องเป็นราวไหมล่ะ!)
ซึ่งสำหรับมหาวิทยาลัยเฉิงกงจะมีวันนึงในช่วงเดือนแรกของการเปิดเรียนจะเป็นวันที่อนุญาตให้ชมรมต่างๆมาทำการรับสมัครนักศึกษาที่เข้าเรียนใหม่เข้าขมรมของตัวเองซึ่งเรียกว่า
Club day /Club open house day/ Club Expo day
(招募社員活動) หรือที่เราจะเคยเห็นกันแบบในหนังญี่ปุ่น
เอ๊ย!!การ์ตูนญี่ปุ่นนั่นแหล่ะ งานจะจัดขึ้นตอนเย็นเป็นเวลา 2วัน แต่ละชมรมจะมีบูทเป็นของตัวเอง
และสามารถโชว์หรือแสดงอะไรก็ได้ เพื่อเป็นการดึงดูดเด็กใหม่ไฟแรงอย่างเราๆไปเข้าชมรมกะเค้า
คนเยอะแบบนี้เลย! |
โดยไอ้งานนี้ส่วนใหญ่เค้าจะจัดกันเวลาตอนเย็น
เนื่องจากจะได้ไม่รบกวนเวลาเรียนของนักเรียนส่วนใหญ่
แต่ละชมรมสามารถป่าวประกาศเรียกแขก เอ๊ยยย สมาชิกกันได้อย่างถึงพริกถึงขิง
โดยแต่ละที่จะมีการจัดวางบูธไม่เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วจะแบ่งตามหมวด
เช่นหมวดชมรมกีฬา หมวดชมรมกิจกรรมในร่ม หมวดวัฒนธรรมเป็นต้น ตามแผนผังด้านล่างนี้
หลังจากที่เราเดินเข้าไปที่บูธ (หรือว่าโดนลากก็ตาม) รุ่นพี่
รุ่นเพื่อน น.ศ.ก็จะสอบถามว่ามีความสนใจมากน้อยแค่ไหน ทำอะไรได้บ้าง
อธิบายรายละเอียดกิจกรรมให้เราฟัง (ใช่แล้วครับเป็นภาษาจีนล้วน)
เลยเป็นสูตรที่ว่าเวลาที่ผมเดินไปดูบูธไหน ก็ต้องระบุตัวตนให้เค้ารู้ก่อนเลยนะว่า
เฮาไม่ใช่คนท้องถิ่นเลยอาจจะลำบากนิดหน่อยในการเข้าร่วมกิจกรรมกับ
น.ศ.ไต้หวันนิดหน่อย ถ้าชมรมเค้าใจดีหรือว่ามีคนพูดภาษาอังกฤษได้
เค้าก็จะพยายามช่วยเหลือเราและคุยกับเราต่อครับ โดยหลังจากที่เข้าไปที่บูธแล้ว
เค้าจะขอให้เราลงชื่อสมัครเข้าชมรม และจะนัดหมายวันรวมตัวเด็กใหม่กันอีกที
(ส่วนใหญ่จะมีระบุไว้ในใบปลิวของแต่ละชมรมเสร็จสรรพ)
NCKU Jazz club วันเปิดชมรม |
หลังจากเราโดดข้ามไทม์ไลน์หลังจากวันที่สมัครไปจนถึงวันที่
นัดพบเด็กใหม่แล้ว ซึ่งสถานที่นัดหมายอาจจะเป็นภายในมหาวิทยาลัยหรือนอกมหาวิทยาลัยก็ได้
(ไม่ต้องตกใจไป บางชมรมไม่มีห้องกิจกรรมในมหาลัย) หลักๆจะเป็นกิจกรรมประมาณนี้
1. แนะนำตัวเอง จบที่ไหนมา เล่นอะไร/ทำอะไรได้บ้าง
(สำหรับชมรมสายดนตรี/กีฬา)
2.แจ้งตารางกิจกรรมคร่าวๆประจำเทอมของชมรม
(หรืออาจจะมีการจัดออดิชั่นเพื่อคัดคน)
3. จ่ายเงินค่าบำรุงชมรม (เงินส่วนนี้จะเป็นเงินในการจัดกิจกรรมทั่วไป/ค่าอุปกรณ์
เช่นโน้ต/ชีท/สื่อหรือการเช่าห้องต่างๆ)
4. แบ่งกลุ่มนัดวันเรียน จัดตารางเรียน
(สำหรับเด็กที่พึ่งเข้าชมรมและไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน)
ชมรม NCKU Jazz Club วันที่มีวิทยากรรับเชิญจากด้านนอกมาให้ความรู้ |
*****หมายเหตุตัวโตๆ*****
สำหรับคนที่อยากเข้าชมรมแต่ไม่มีเพื่อนที่พูดภาษาจีนไปได้
แนะนำให้ขอเบอร์ติดต่อ/ไลน์ของคนที่ช่วยเราประสานงานตอนที่ลงชื่อเข้าชมรมไว้
อย่างน้อยๆเราจะได้อุ่นใจหากมีคนที่พอจะช่วยเหลือเราได้บ้าง ที่สำคัญคืออย่ากลัวที่จะได้ลองสิ่งใหม่ๆครับ
ตอนแรกที่ผมเดินดุ่มๆเข้าไปเลือกชมรม บอกตามตรงว่าปอดแหกเหมือนกัน เพราะว่าพูดไม่ได้เลย พูดภาษาอังกฤษไปก็มีความจึ๋งกันทั้งสองฝ่าย แต่หลังๆพอเริ่มรู้ภาษาได้บ้างหรือพยายามเรียนรู้ได้บ้าง ทางน.ศ.ไต้หวันเองเค้าก็พร้อมที่จะช่วยเหลือและเป็นเพื่อนกับเราครับผม
ขอให้ทุกคนสนุกกับการเรียนรู้วิถีชีวิตและความเรียลของการเป็นนักศึกษาไต้หวันกันทุกคนนะครับ
ส่วนตัวผมเชื่อว่าการเข้าชมรมเป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้เราได้เห็นถึงความเป็นต้นตำรับตัวจริงของจริงประเทศนั้นๆ
เราจะได้เรียนรู้วิธีการทำงานและไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นไต้หวันแบบถึงพริกถึงขิง ได้ไม่แพ้กับการไปอยู่กับโฮสแน่นอน
และที่สำคัญภาษาจีนจะเก่งเร็วขึ้นอย่างแน่นอนครับ(แบบที่ไม่ค่อยมีประโยชน์นะ 5555555)
Highlight Summary:
- ตรวจเช็คเวลาเข้าหอวันแรกให้ดีๆ หากใครมีคนรู้จักอยู่ที่ไต้หวันก่อนแล้วถือเป็นแต้มต่อพระคุ้มที่ดีมาก
บางหอไม่มีของใช้ในห้องมา ถ้ามาดึกเกินไปอาจจะต้องทนนอนไม้กระดานไปก่อน
- ถ้ามีโอกาสเลือกรูมเมท ที่ไหนบนแล้วขึ้นไปบนเลยครับ มีรูมเมทไม่ดีชีวิตเปลี่ยนได้
- เข้าชมรมกิจกรรมของมหาวิทยาลัยเป็นตัวเลือกที่ดีอันดับต้นๆของการที่อยากฝึกภาษาแต่มีงบประมาณน้อย
มีความยากกว่าการเข้าเรียนสูง แต่จะได้ทั้งภาษาได้ทั้งเพื่อน และประสบการณ์
- ชมรมกิจกรรมในมหาวิทยาลัยของไต้หวันมีค่อนข้างหลากหลาย แปลกๆก็เยอะ พยายามเลือกชมรมที่เราไม่มีโอกาสได้เข้า
หรือเข้าชมรมที่เราเชี่ยวชาญอยู่แล้ว เพราะยังไงก็จะได้ฝึกภาษาอย่างเต็มที่แน่นอน
Highlight Summary:
- ตรวจเช็คเวลาเข้าหอวันแรกให้ดีๆ หากใครมีคนรู้จักอยู่ที่ไต้หวันก่อนแล้วถือเป็นแต้มต่อพระคุ้มที่ดีมาก
บางหอไม่มีของใช้ในห้องมา ถ้ามาดึกเกินไปอาจจะต้องทนนอนไม้กระดานไปก่อน
- ถ้ามีโอกาสเลือกรูมเมท ที่ไหนบนแล้วขึ้นไปบนเลยครับ มีรูมเมทไม่ดีชีวิตเปลี่ยนได้
- เข้าชมรมกิจกรรมของมหาวิทยาลัยเป็นตัวเลือกที่ดีอันดับต้นๆของการที่อยากฝึกภาษาแต่มีงบประมาณน้อย
มีความยากกว่าการเข้าเรียนสูง แต่จะได้ทั้งภาษาได้ทั้งเพื่อน และประสบการณ์
- ชมรมกิจกรรมในมหาวิทยาลัยของไต้หวันมีค่อนข้างหลากหลาย แปลกๆก็เยอะ พยายามเลือกชมรมที่เราไม่มีโอกาสได้เข้า
หรือเข้าชมรมที่เราเชี่ยวชาญอยู่แล้ว เพราะยังไงก็จะได้ฝึกภาษาอย่างเต็มที่แน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมบางส่วนและรูปประกอบจากGoogle
ตามไปดูชีวิตไร้สาระประจำวันของคนเขียนได้ที่ Instragram: @puipuiiadventure
ปล. หลังจากนี้จะไม่หายแล้วครับ หากมีข้อติดชม หรือว่าเสนอแนะเกี่ยวกับการเขียน หรือสิ่งต่างๆเกี่ยวกับไต้หวัน สามารถแนะนำได้เต็มที่เลยครับ :)
ตามไปดูชีวิตไร้สาระประจำวันของคนเขียนได้ที่ Instragram: @puipuiiadventure
ปล. หลังจากนี้จะไม่หายแล้วครับ หากมีข้อติดชม หรือว่าเสนอแนะเกี่ยวกับการเขียน หรือสิ่งต่างๆเกี่ยวกับไต้หวัน สามารถแนะนำได้เต็มที่เลยครับ :)