หลังจากที่ได้เกริ่นไปแล้วในตอนที่แล้วว่าทำไมเมืองไถหนานนั้น
ถึงมีความเก๋ไก๋ไม่แพ้หัวเมืองชื่อดังประจำประเทศอย่างไทเป ในด้านความเก๋าและความเก่าแก่ของตัวเมืองแล้ว
คราวนี้จะกล่าวถึงเมืองไถหนานในแบบฉบับทัวร์กากๆกันว่า เมืองนี้ปกติเดินทางไปกันยังไง
ไถหนานไปไงดี?
Picture credit: Google |
โดยปกติแล้วการมายังไถหนานนั้นสามารถทำได้
2 วิธีคือ
ลงที่สนามบินหลักของประเทศ Taiwan
Taoyuan International Airport
หรือที่ Kaohsiung
international airport ซึ่งเป็นสนามบินหลักทางตอนใต้ของประเทศไต้หวัน
โดยตอนนี้จะขอเสนอในกรณีที่เราตัดสินใจลงที่
สนามบินเถาหยวนซึ่งเป็นสนามบินหลักของไต้หวันกันก่อน
ข้อดี
1. มีไฟลต์เยอะ
ไฟลต์ถูก ไฟลต์แพง ไฟลต์ลดราคา ไฟลต์โลว์คอสทั้งหลายแหล่ ส่วนใหญ่จะลงที่เถาหยวนหมด
โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะบินกี่โมงหรือจะบินจากสนามบินต้นทางที่ไหน
(ณ ปัจจุบัน สามารถนั่งเครื่องจากเมืองไทยได้จาก 3 สนามบินอันได้แก่ สนามบินเชียงใหม่ สนามบินนานาชาติดอนเมืองและสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ซึ่งตอนสมัยผมเรียนจะมีแค่จากเชียงใหม่และสุวรรณภูมิเท่านั้นครับ)
(ณ ปัจจุบัน สามารถนั่งเครื่องจากเมืองไทยได้จาก 3 สนามบินอันได้แก่ สนามบินเชียงใหม่ สนามบินนานาชาติดอนเมืองและสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ซึ่งตอนสมัยผมเรียนจะมีแค่จากเชียงใหม่และสุวรรณภูมิเท่านั้นครับ)
โดยข้อดีที่สุดอย่างหนึ่งคือ เราสามารถเตร็ดเตร่ในเมืองไทเปก่อนได้แล้วค่อยนิราศไปไถหนานเพื่อเริ่มต้นชีวิตนักเรียน
(ซึ่งโดยปกติแล้วจะไม่มีเวลาที่สามารถเที่ยวยาวๆ 5-7 วันได้จนกว่าจะปิดเทอมอีกครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสกิลในการจัดตารางเรียนของแต่ละคน)
(ซึ่งโดยปกติแล้วจะไม่มีเวลาที่สามารถเที่ยวยาวๆ 5-7 วันได้จนกว่าจะปิดเทอมอีกครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสกิลในการจัดตารางเรียนของแต่ละคน)
ข้อเสีย
1.ค่อนข้างไกลจากเมืองไถหนานและใช้เวลาเดินทางค่อนข้างจะนาน(มาก)เมื่อเทียบกับการบินลงที่เกาสง
2.ค่าใช้จ่ายในการเดินทางสูงกว่ามากถ้าหากต้องการที่จะถึงไถหนานไวๆ
โดยวิธีต่างๆในการเดินทางสามารถแบ่งเป็นเส้นทางหลักๆได้ตามนี้
เดินทางโดยใช้บริการ THSR
(หลังจากนี้จะขอเรียกว่าเกาเถี่ยซึ่งเป็นชื่อที่เรียกกันโดยทั่วไป)ซึ่งส่วนตัวผม
คิดว่ามันคือที่สุดและสุดโคตรแห่งความจะไม่สบายถ้าหากมีสัมภาระมากๆติดมาด้วย แต่ถือเป็นวิธีการที่เร็วที่สุดในการที่จะไปให้ถึงเมืองไถหนานจากไทเป
เริ่มจากเราต้องทำการลากกระเป๋า
(โปรดนึกถึงกระเป๋าเดินทางไซส์แบบแฮร์รี่พอตเตอร์ติดตั้งมากับน้ำหนัก33กิโลกรัมถ้วน ใช่แล้วครับ ไอ่ที่มันมีขนาดตัวเท่าเด็กอายุ 5 ขวบนั่นแหล่ะครับ)
ออกจากเกทและเดินมาขึ้นรถบัสที่ทางเกาเถี่ยเตรียมไว้ให้เรา โดยต้องจ่ายค่าบริการ 30NTD หลังจากนั้นเมื่อรถบัสพาเรามาถึงสถานีรถไฟแล้ว เราต้องทำการลากกระเป๋าไปซื้อตั๋ว
(สามารถซื้อได้ที่ตู้ขายบัตรอัตโนมัติหรืออาจจะซื้อที่เคาท์เตอร์ได้ โดยพนักงานสามารถพูดภาษาอังกฤษได้)
ซึ่งราคาและเวลาเดินรถสามารถทำการเช็คได้ ที่ลิ๊งค์ข้างล่างนี้ โดยบางครั้งทางจะมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาซึ่งราคาจะถูกกว่าราคาเต็ม
(โดยแล้วแต่วัน/เที่ยว/สถานะต่างๆเช่น นักเรียน,ผู้สูงอายุ ฯลฯ)
โดยสามารถตรวจสอบได้จากลิ๊งค์ข้างล่างนี้เลยครับผม
http://www5.thsrc.com.tw/en/ticket/tic_time_search.asp
และหลังจากที่ซื้อตั๋วเสร็จแล้ว เราก็ต้องไถกระเป๋าไปยังชานชาลา เพื่อรอรถ
และนำมันไปเก็บไว้ตรงบริเวณที่เค้าจัดไว้ให้ในแต่ละโบกี้ ซึ่งพอเราไปถึงสถานีไถหนานแล้ว
ชะตาชีวิตเราก็จะถูกแยกออกเป็นสองทางอีกครั้งนั้นคือ
1.นั่งรถไฟหวานเย็นไปยังตัวเมืองไถหนานซึ่งเป็นวิธีที่คุ้มค่าราคาเงินของนักเรียนอย่างเราๆมากที่สุด
แต่เสียเวลามากกว่า โดยจะใช้เวลาในการนั่งรถไฟทั้งสิ้นประมาณ 30 นาที และหลังจากที่ไปถึงสถานีไถหนานแล้ว
เราต้องทำการเข็นๆๆลากๆๆกระเป๋าเราไปตามชานชาลา(ยังไม่นับการถูกครหาทางสายตาจากคนท้องถิ่นที่ดูเราเหมือนเป็นเด็กที่โดนไล่ออกจากบ้านมาอีก)
ยกมันขึ้นบันไดความยาวกว่า 10เมตร และเผชิญความชันกว่า
45% ขึ้นไปยังฝั่งไถหนานที่NCKUตั้งอยู่ (มหาวิทยาลัยอยู่ติดกับสถานีรถไฟครัช
เดิน5นาทีถึง) แต่จากสถานีรถไฟไปยังหอพักนั้นมันยิ่งกว่าหนังตลก
ถ้าใครได้อยู่หอฝั่งที่ติดกับแคมปัสหลัก (ปกติเค้าเรียกว่าฝั่ง Guang Fu) ก็ถือว่าทำบุญมาเยอะหน่อย
เดินไปประมาณ 10นาทีก็ถึง แต่ถ้าใครทำบุญมาน้อยหน่อย
จะได้ไปอยู่แคมปัสฝั่งที่เป็นหอพักนักศึกษาทั้งหมด(ฝั่ง Shengli) เดินไปลากไปเลยฮะ อย่างต่ำ 15-20นาที
ถ้าวันไหนชงหนักหน่อย ฝนดันตกลงมาก็รับกรรมแบบเต็มๆกันไป
โดยถ้าดูในแง่ของค่าใช้จ่ายแล้ว
วิธีนี้มีความเฟรนด์ลี่กับกระเป๋าตังค์เราที่สุดเนื่องจากจ่ายแค่ 25NTD สำหรับค่าตั๋วรถไฟขาเดียวจากสถานี Shalun station (沙崙站-สถานีเกาเถี่ยไถหนาน)
มายัง Tainan
station 台南站
picture credit: Kaminoge from blogspot |
**ช่วงประสบการณ์ตรง**มีอยู่ครั้งหนึ่งผมได้ลองใช้วิธีนี้ตอนกลับมาจากปิดเทอม
เพื่อนต่างชาติคนหนึ่งได้โชว์ความหวังดีด้วยการเอาจักรยานมารับ แต่มันคงลืมคิดไปว่าผมได้หอบเอากระเป๋าฮอกวอตส์มาด้วย
เรื่องมันจบลงที่ว่าสุดท้ายมันต้องเอาจักรยานจอดทิ้งไว้ที่สถานี แล้วช่วยผมยก/เข็น/ลาก กระเป๋ามาที่หอ ระหว่างทางฝนดันเทลงมาเหมือนคนปวดเข้าห้องน้ำระหว่างนั่งรถทัวร์แล้วรถเบรคแตกหาที่จอดไม่ได้
ไอ้เราก็รีบวิ่งๆเข็นๆลากๆ จนกระทั่ง หูกระเป๋าหักกลางทาง -_-“ (พร้อมทั้งได้ยินเสียงพี่ปั๊บขึ้นมาว่า
ทำถูกแล้ว~)
และครั้งนั้นก็เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ผมนั่งเกาเถี่ยจากไทเปกลับมาไถหนานตอนเปิดภาคเรียนตลอดช่วงเวลาของการเป็นนักเรียนที่นี่ -0-
และครั้งนั้นก็เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ผมนั่งเกาเถี่ยจากไทเปกลับมาไถหนานตอนเปิดภาคเรียนตลอดช่วงเวลาของการเป็นนักเรียนที่นี่ -0-
2. นั่งแท๊กซี่จากสถานีเกาเถี่ยไปยังมหาวิทยาลัยโดยตรงเลย
ซึ่งเราต้องตระเตรียมที่อยู่ของหอพักเป็นภาษาจีน ไว้ให้พนักงานขับแท๊กซี่ ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าเราบอกเค้าว่าไป
มหาวิทยาลัยเฉิงกง (成功大學) หรือเฉิงต้า
เค้าก็เข้าใจเหมือนกัน (แต่อาจจะโดนถามต่อว่าลงบริเวณไหน เช่น ประตูใหญ่ ประตูหน้า
ประตูข้าง หอไหน แคมปัสไหน หรือทางไหน ซึ่งแน่นอนฮะ
ภาษาง่อยๆอย่างผมก็เน้นเอาง่ายว่า อะไรที่มันใหญ่ๆมักจะถือว่าเป็นจุดที่สังเกตง่าย
ผมเลยบอกว่าไปลงที่ ประตูใหญ่ หรือที่เรียกว่าต้าเหมินโข่ว (大門口) ซึ่งวิธีในการขึ้นแท็กซี่ในไต้หวัน
ผมจะขอเก็บไว้เล่าต่อ ในตอนต่อๆไป โดยวิธีนั่งแท็กซี่นี้จะใช้เวลาที่สั้นกว่าการนั่งรถไฟหวานเย็น
(ประมาณ 15-20 นาที ค่าใช้จ่ายจะตกอยู่ประมาณ 100-150 NTD)โดยขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในขณะนั้น
แต่ข้อดีคือเค้าจะไปจอดหน้าบริเวณหอของเราเลย (ถ้าแจ้งที่อยู่ให้พนักงานเป็นที่อยู่ของหอ)
ซึ่งถือว่าเบาแรงกายและแรงใจเราไปมากถ้าเรามีของเยอะหรือมีน้ำหนักมาก
บริเวณด้านหน้าของแคมปัสหลักของ NCKU-Kuangfu gate หรือที่เรียกกันว่าประตูใหญ่ |
ตัวเลือกต่อมาที่เป็นวิธีที่เร็วน้อยกว่าและเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าแบบแรกคือ
การนั่งรถไฟโดยสารแบบธรรมดาหรือที่เรียกกันว่า
ไถเถี่ย(台鐵-TRA)
โดยไถเถี่ยเองจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกันโดยเรียงจากความเร็วในการเดินทางและจำนวนสถานีที่จอดดังนี้
1.Tze-Chiang
Limited Express(自強)
โดยรถไฟประเภทนี้ถือว่าเป็นประเภทที่เร็วที่สุดในครอบครัวไถเถี่ย โดยจำนวนสถานีที่จอดจะน้อยกว่าและมีความเร็วในการวิ่งที่สูงกว่าประเภทอื่นๆ ปกติแล้วถ้าหากจะขึ้นรถไฟประเภทนี้ควรจะต้องมีการจองที่นั่งล่วงหน้าก่อนการเดินทาง เพราะถ้าหากเดินดุ่มๆไปซื้อตั๋วแล้วขึ้นรถเลย อาจจะต้องยืนเฝ้ากระเป๋าบริเวณตรงทางเดินภายในโบกี้หรือบริเวณทางเดินเชื่อมระหว่างโบกี้เหมือนเหล่าผู้ลี้ภัยสงคราม กว่า 3 ชั่วโมงกันก็เป็นได้
โดยรถไฟประเภทนี้ถือว่าเป็นประเภทที่เร็วที่สุดในครอบครัวไถเถี่ย โดยจำนวนสถานีที่จอดจะน้อยกว่าและมีความเร็วในการวิ่งที่สูงกว่าประเภทอื่นๆ ปกติแล้วถ้าหากจะขึ้นรถไฟประเภทนี้ควรจะต้องมีการจองที่นั่งล่วงหน้าก่อนการเดินทาง เพราะถ้าหากเดินดุ่มๆไปซื้อตั๋วแล้วขึ้นรถเลย อาจจะต้องยืนเฝ้ากระเป๋าบริเวณตรงทางเดินภายในโบกี้หรือบริเวณทางเดินเชื่อมระหว่างโบกี้เหมือนเหล่าผู้ลี้ภัยสงคราม กว่า 3 ชั่วโมงกันก็เป็นได้
**หมายเหตุ**
ประเทศนี้แม้ว่าตั๋วทุกที่นั่งจะถูกซื้อไปแล้ว ก็จะยังเปิดขายตั๋วอยู่
โดยคนที่ซื้อไปโดยที่ไม่มีที่นั่งจะต้องยืนอยู่บริวเณทางเดินไม่ก็บริเวณระหว่างโบกี้
ถ้าหากมีที่นั่งว่างอยู่สามารถเข้าไปนั่งได้ แต่ถ้าเจ้าของตัวจริงมาสะกิดพร้อมตั๋ว
ก็ต้องลุกออกให้ตัวจริงนั่งตามมารยาท
2. Chu-Kuang Express (莒光)
จะเป็นรถไฟที่มีความเร็วในการวิ่งช้ากว่า
อย่างแรกเพราะว่าจะมีจำนวนป้ายที่จอดเยอะกว่า บางทีอาจจะต้องมีการเปลี่ยนรถไฟ
ถ้าหากไม่สามารถหาเที่ยวที่วิ่งตรงจากเมืองไทเปมายังไถหนานได้
3. Local train (區間快車)
สุดยอดรถไฟคลาสสิคหวานเย็นแห่งเมืองไต้หวัน จอดทุกป้ายจอดทุกสถานี
วิ่งจากเมืองต่ออีกหลายเมือง
ซึ่งรถไฟประเภทนี้ส่วนใหญ่แล้วคนท้องถิ่นจะนั่งไปเมืองข้างๆหรือว่าไปยังเมืองที่ไม่ใช้เวลาในการเดินทางนัก
เพราะว่ามีราคาที่ถูกที่สุดเมื่อเทียบกับประเภทอื่นๆและไม่มีการลงเลขที่นั่งไว้
และแล้วก็มาถึงวิธีสุดท้ายซึ่งเป็นวิธีที่เป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์นักเดินทางเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างเราๆซึ่งก็คือรถบัสประจำทางนั่นเอง
สำหรับวิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีงบประมาณที่น้อยกว่าสองแบบแรก
เนื่องจากค่าใช้จ่ายต่อเที่ยวจะอยู่ที่ประมาณ 400 NTD แต่สิ่งที่เราต้องจ่ายเป็นการแลกเปลี่ยนคือเวลาครับ
เราต้องนั่งรถกว่า 5 ชั่วโมง (บางทีจะอยู่ที่
4ชั่วโมงครึ่ง หรืออาจจะลากยาวไปถึง 6
ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในแต่ละช่วงด้วย) โดยหลังจากที่ขึ้นจากที่สนามบินเถาหยวนแล้วหลักๆจะมีอยู่สองแบบด้วยกันคือ
1.นั่งยาวไปจนถึงไถหนานเลย
2. นั่งไปเปลี่ยนรถที่ จุดพักรถจงลี่ (Zhongli Service Area) ซึ่งจะห่างจากสนามบินประมาณ 20นาที
หลังจากนั้นก็จะนั่งยาวไปยังไถหนานเลย
โดยในแบบที่สองต้องสังเกตดีๆว่าเวลาซื้อตั๋วเค้าให้ตั๋วมากี่ใบ ถ้าเค้าให้มาสองใบ ถือว่าเป็นอันรู้กันว่าเราต้องทำการเปลี่ยนรถจากสนามบินที่สถานีจงลี่
ดังนั้นต้องสังเกตกันดีๆนะครัช ถ้าไม่แน่ใจอาจจะลองถามพนักงานตอนซื้อตั๋วว่าต้องไปเปลี่ยนรถรึเปล่า
ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะต้องไปที่นั่นเพื่อทำการเปลี่ยนรถ
โดยบางครั้งรถจะมีการจอดพักรถ (ใช่ครับ
พักเฉยๆไม่ต้องเปลี่ยนรถ) ที่ท่ารถเมืองไถจง (สถานีฉาวหม่า-) ซึ่งถือได้ว่าเป็นครึ่งทางระหว่างไทเปกับเมืองไถหนาน ประมาณ 15 นาที เพื่อให้เราออกไปยืดเส้นยืดสาย ซื้อของกิน
และกลับมาเพื่อนั่งรถต่ออีกประมาณ 3ชั่วโมงไปยังเมืองไถหนาน
ถ้าใครเลือกมาเส้นทางนี้ ต้องเช็คเบอร์ของท่ารถที่จอดดีๆ เพราะว่า
อาจจะมีสิทธิ์ขึ้นรถผิดคันได้ (รถบางคันจอดใกล้กัน
ไปเมืองเดียวกันแต่จอดคนละสถานี)
**ช่วงประสบการณ์จริง** มีอยู่ครั้งหนึ่งเคยนั่งรถจากไถหนานไปไทเป แล้วต้องไปจอดพักรถที่ตรงสถานีที่ไถจง ด้วยความเบลอที่หลับมาตลอดเส้นทาง พอพักรถปุ๊บก็กระโดดลงจากรถไปเข้าห้องน้ำเสร็จสรรพ โดยที่ไม่ได้ดูว่ารถจอดที่ป้ายหมายเลขอะไร พอเดินกลับมาที่รถจอดอยู่ ดันมีรถสองคันไปไทเปเหมือนกัน หน้าตาเหมือนกันเด๊ะ จอดติดกันอีกต่างหาก!!! ด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอดที่ล้ำเลิศจึงเดินขึ้นรถคันที่ใกล้ตัวที่สุดก่อน พอไปถึงที่ที่นั่ง ก็พบว่ามีคุณป้ากำลังนั่งหลับอยู่บนที่นั่งของผมอยู่ แต่พอมองข้าไปที่รถอีกคัน กลับพบว่ากำลังฉายหนังเรื่องที่รถคนที่ผมนั่งมาอยู่ถึงรู้ว่าตัวเองขึ้นรถผิดคัน และอีรถคันที่ผมอยู่ เค้าก็ประกาศว่ากำลังจะออกจากลานจอดอีกต่างหาก! ดีที่ว่าเค้ายังไม่ออกรถทันที ผมจึงทันวิ่งลงจากรถแล้วไปขึ้นรถของตัวเองทัน ไม่งั้นคงจะได้เป็นตั๋วยืนไปจนถึงไทเปแหงๆ TAT เพราะฉะนั้นอย่าลืมเช็คหมายเลขลานจอดรถกันดีๆก่อนออกจากรถด้วยนะฮะทุกท่าน
**ช่วงประสบการณ์จริง** มีอยู่ครั้งหนึ่งเคยนั่งรถจากไถหนานไปไทเป แล้วต้องไปจอดพักรถที่ตรงสถานีที่ไถจง ด้วยความเบลอที่หลับมาตลอดเส้นทาง พอพักรถปุ๊บก็กระโดดลงจากรถไปเข้าห้องน้ำเสร็จสรรพ โดยที่ไม่ได้ดูว่ารถจอดที่ป้ายหมายเลขอะไร พอเดินกลับมาที่รถจอดอยู่ ดันมีรถสองคันไปไทเปเหมือนกัน หน้าตาเหมือนกันเด๊ะ จอดติดกันอีกต่างหาก!!! ด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอดที่ล้ำเลิศจึงเดินขึ้นรถคันที่ใกล้ตัวที่สุดก่อน พอไปถึงที่ที่นั่ง ก็พบว่ามีคุณป้ากำลังนั่งหลับอยู่บนที่นั่งของผมอยู่ แต่พอมองข้าไปที่รถอีกคัน กลับพบว่ากำลังฉายหนังเรื่องที่รถคนที่ผมนั่งมาอยู่ถึงรู้ว่าตัวเองขึ้นรถผิดคัน และอีรถคันที่ผมอยู่ เค้าก็ประกาศว่ากำลังจะออกจากลานจอดอีกต่างหาก! ดีที่ว่าเค้ายังไม่ออกรถทันที ผมจึงทันวิ่งลงจากรถแล้วไปขึ้นรถของตัวเองทัน ไม่งั้นคงจะได้เป็นตั๋วยืนไปจนถึงไทเปแหงๆ TAT เพราะฉะนั้นอย่าลืมเช็คหมายเลขลานจอดรถกันดีๆก่อนออกจากรถด้วยนะฮะทุกท่าน
ปิดท้ายกันด้วยอีกหนึ่งเส้นทางที่สามารถเดินทางมายังเมืองไถหนาน
นั่นคือการบินลงที่สนามบินนานาชาติเกาสง Kaosiung International airport
ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งซึ่งสามารถใช้เดินทางมายังไถหนานได้ด้วยเช่นกัน
โดยจะมีสองสายการบินหลักที่ให้บริการคือ China Airline กับ Bangkok
airways (Via สายการบินอะไรสักอย่างจำไม่ได้ละ)
ซึ่งบินตรงจากกรุงเทพ(น่าจะเป็นสุวรรณภูมิ) มายังเมืองเกาสงโดยตรง
ยังไงถ้าใครสนใจวิธีการนี้สามารถตามวาร์ปข้างล่างนี้ไปกันได้เลยครัช
http://www.kia.gov.tw/english/e_content/periodical.asp?line=1
โดยหลังจากที่ถึงที่สนามบินแล้ว
สามารถนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินจากเมืองเกาสง ไปต่อที่สถานีรถไฟไถเถี่ยและนั่งจากไถเถี่ยไปยังเมืองไถหนานได้
หรือถ้าใครอารมณ์ฉันสวย/หล่อและรวยมาก
สนใจที่จะนั่งรถแท็กซี่ตรงจากสนามบินเกาสงก็สามารถทำได้นะจ้า สนน
ราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 500 NTD นะจ้า (เดาเองเออเอง)
Highlight Summary:
- ถ้าลงเครื่องจากเกาสงจะมาถึงไวหน่อย แต่จำนวนไฟลต์ก็จะน้อยกว่า มาจากไทเปไฟลต์เยอะหน่อย แต่เดินทางไกลกว่า
- ตอนนี้ไม่มีบินตรงจากเชียงใหม่แล้ว (กระซิก) แต่ว่าหลักๆที่ยังมีอยู่คือ การบินไทย ไชน่าแอร์ไลน์ อีว่าแอร์ นกสกู๊ตและไทเกอร์แอร์ครับ ใครจะมาลองตรวจสอบเว็บไซต์ของสายการบินเหล่านี้ดู
- เกาเถี่ย (รถไฟความเร็วสูง) เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่รีบและมีงบมากหน่อย ใครงบน้อยเชิญรถบัสที่ถูกกว่าเยอะแต่ก็เสียเวลาเดินทางมากกว่าหน่อย
- รถไฟเป็นอีกตัวเลือกที่ดีในการเดินทางระหว่างเมืองในไต้หวัน เพราะว่าราคากลางๆ มีระดับความเร็วให้เลือกเยอะ และจอดทุกเมืองในไต้หวัน
Highlight Summary:
- ถ้าลงเครื่องจากเกาสงจะมาถึงไวหน่อย แต่จำนวนไฟลต์ก็จะน้อยกว่า มาจากไทเปไฟลต์เยอะหน่อย แต่เดินทางไกลกว่า
- ตอนนี้ไม่มีบินตรงจากเชียงใหม่แล้ว (กระซิก) แต่ว่าหลักๆที่ยังมีอยู่คือ การบินไทย ไชน่าแอร์ไลน์ อีว่าแอร์ นกสกู๊ตและไทเกอร์แอร์ครับ ใครจะมาลองตรวจสอบเว็บไซต์ของสายการบินเหล่านี้ดู
- เกาเถี่ย (รถไฟความเร็วสูง) เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่รีบและมีงบมากหน่อย ใครงบน้อยเชิญรถบัสที่ถูกกว่าเยอะแต่ก็เสียเวลาเดินทางมากกว่าหน่อย
- รถไฟเป็นอีกตัวเลือกที่ดีในการเดินทางระหว่างเมืองในไต้หวัน เพราะว่าราคากลางๆ มีระดับความเร็วให้เลือกเยอะ และจอดทุกเมืองในไต้หวัน
ถ้าหากมีข้อสงสัยหรือว่าคำถาม ข้อเสนอแนะ ติชม ก่นด่า ฝากได้ที่ Comment ด้านล่างนะคร๊าบ :)
ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมบางส่วนและรูปประกอบจากGoogle
ตามไปดูชีวิตไร้สาระประจำวันของคนเขียนได้ที่ Instragram: @puipuiiadventure