>>>>>>กดปุ่มเร่งเวลาไปข้างหน้าอีกนิด >>>>>>
พอชีวิตเริ่มเข้าที่เข้าทาง เข้าเรียนวิชาต่างๆ ไปทำกิจกรรมชมรมกับเด็กป.ตรี กลับสู่ชีวิตนักศึกษาแบบเต็มตัวกันอีกครั้ง
มีสิ่งสำคัญที่ทำให้ผมลืมไปเลยในการมาเรียนครั้งนี้หลังจากที่เรียนผ่านไปได้จนเกือบจะจบเทอม
(จริงๆลืมไปแล้วตั้งแต่เดือนแรกที่มาถึง) ก็คือ
เรื่องการทำวิทยานิพนธ์!!!
ก็แหงสิ! เราได้ทุนมาเรียนปริญญาโทนะเฟ้ย! เจ้าสิ่งนี้มันควรจะเป็นใบเบิกทางกลับไปนอนอยู่ข้างผนัง ที่บ้าน โชว์ตัวหรา ให้อีป้ออีแม่ที่บ้านตื้นตันใจว่าลูกได้นำพาวงศ์ตระกูลมาไกลถึงไต้หวัน และมันยังเป็น "บอส" ตัวสุดท้ายที่จะตัดสินว่าเราสามารถจบตามหลักสูตรได้หรือไม่ หรือจะต้องจ่ายเงินเพื่อยืดอายุปีการศึกษาและวิจัยงานให้จบตามที่อาจารย์ที่ปรึกษาหมายมั่นไว้กับเรา
หลายๆคนที่สนใจอยากมาเรียนเคยถามผมว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการทำวิจัยที่ไต้หวันคืออะไร?
เอาจริงๆ ผมคิดว่าแต่ละคนนั้นมองความสำคัญหรือการให้น้ำหนักในแต่ละส่วนแตกต่างกันออกไป แต่ส่วนตัวผมคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดเนี่ยะ คือ
"เราตั้งใจว่าจะทำอะไรหลังจากที่จบไปแล้ว"
เพราะอย่างตอนที่ผมเข้ามา เอาจริงๆ ณ เวลานั้น สมองเสมิงไม่ได้คิดไว้เลยว่าอยากทำเรื่องอะไร คิดซะว่าเดี๋ยวเรื่องมันก็จะโผล่ขึ้นมาเองระหว่างเรียนๆเที่ยวๆ ซึ่งจริงๆแล้วมันเป็นความคิดที่ถือว่า ได้พาตัวเองไปอยู่ในจุดเสี่ยงของชีวิตตั้งแต่แรก เพราะมีเพื่อนหลายคนที่แทบจะเอาชีวิตไม่รอด(จบไม่ตามกำหนดของทุนการศึกษาที่ได้รับ) เนื่องจากมาคิดเรื่องที่อยากทำได้ช้าจนเกินไป และกว่าจะผ่านการรับรอง ยืนยัน และสอบจบมันก็ไม่ทันเสียแล้ว
"เราตั้งใจว่าจะทำอะไรหลังจากที่จบไปแล้ว"
เพราะอย่างตอนที่ผมเข้ามา เอาจริงๆ ณ เวลานั้น สมองเสมิงไม่ได้คิดไว้เลยว่าอยากทำเรื่องอะไร คิดซะว่าเดี๋ยวเรื่องมันก็จะโผล่ขึ้นมาเองระหว่างเรียนๆเที่ยวๆ ซึ่งจริงๆแล้วมันเป็นความคิดที่ถือว่า ได้พาตัวเองไปอยู่ในจุดเสี่ยงของชีวิตตั้งแต่แรก เพราะมีเพื่อนหลายคนที่แทบจะเอาชีวิตไม่รอด(จบไม่ตามกำหนดของทุนการศึกษาที่ได้รับ) เนื่องจากมาคิดเรื่องที่อยากทำได้ช้าจนเกินไป และกว่าจะผ่านการรับรอง ยืนยัน และสอบจบมันก็ไม่ทันเสียแล้ว
เพราะฉะนั้นในตอนนี้
ผมจะขออนุญาตแนะนำเกี่ยวกับการเลือกหัวข้อวิทยานิพนธ์และการเลือกอาจารย์ในการสอบวิทยานิพนธ์ในไต้หวันสำหรับหลักสูตรนานาชาติ
จากประสบการณ์ส่วนตัวและเน้นในส่วนของการเรียนในภาควิชา IMBA เป็นหลักครับ
เลือกหัวข้อ
มาดูกันว่าเลือกยังไงให้ปัง ให้อาจารย์อยากเซ็นผ่านจนมือสั่น
1. เลือกหัวข้อที่เราได้เคยทำมาแล้วในสมัยปริญญาตรี
หรือเป็นเรื่องที่ถนัด เป็นกูรูตัวเมพในห้องจากสมัยเรียนเป็นหลัก
สำหรับการเลือกด้วยวิธีนี้จะดีตรงที่ว่า
เราสามารถเอางานวิจัย(หรือตัวโปรเจ็คจบ)สมัยปริญญาตรีมาใช้เป็นฐานไว้ต่อยอด
ศึกษาต่อ เพราะนอกจากที่จะไม่ต้องเสียเวลามานั่งเทียนเขียนใหม่ตั้งแต่ต้นแล้ว
เรายังสามารถขอความเมตตาจากอาจารย์ที่เคยให้คำปรึกษาเราสมัยที่เราเรียนอยู่ปริญญาตรีได้เช่นกัน
หลังจากนั้นแล้วก็พุ่งตรงไปหาอาจารย์ที่สอนหรือว่าเชี่ยวชาญในเครือข่ายที่เราต้องการได้เลย
ยังไง 75% อาจารย์อยากรับแน่นอนครับ
2. เลือกหัวข้อที่เรามีความสนใจส่วนตัวสูง รู้ลึก รู้จริง
และมีการอัพเดตข่าวสารใหม่ๆอยู่เสมอๆ
มันแน่นอนว่าถ้าเป็นเรื่องที่เราสนใจแบบส่วนตั๊วส่วนตัว ยังไงๆ ฐานความรู้ที่เราถืออยู่
มันจะค่อนข้างแน่นกว่าเรื่องทั่วๆไปที่เรารู้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ดนตรี
กีฬา ท่องเที่ยว งานอดิเรกต่างๆ
หากเรามองเห็นจุดที่จะสามารถเชื่อมโยงกับสาขาวิชาที่เรียนอยู่
ไม่ว่าจะเป็นสายงานไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง IMBA ซึ่งเน้นในเรื่องของการจัดการ
ถ้าเราสามารถจับคู่ได้ดีๆ ยังไงก็สามารถเป็นหัวข้อวิจัยที่น่าสนใจได้อย่างแน่นอน
**เรื่องแถม**
ส่วนตัวผมเองก็ใช้วิธีนี้ เรื่องมันเริ่มจากความบังเอิญแบบไม่ได้คาดฝันไว้
คือ มีอยู่วันหนึ่งที่ไปนั่งสนทนาพาที กินเหล้าเมาเบียร์ socialize กับเพื่อนๆในคณะอยู่ที่
7-11หน้าหอ (ร้านค้าสะดวกซื้อที่นี่สามารถซื้อสุราเมรยะ ได้ตลอดเวลาครับ)
คือร้านค้าสะดวกซื้อที่นี่ มีหลายแห่งที่จะมีห้องน้ำให้บริการอยู่ด้วย ด้วยความสนทนากันมันส์ไปหน่อย
ก็เลยต้องไปพักปลดทุกข์ที่ห้องน้ำ แต่ห้องน้ำเจ้ากรรมดันมีคนใช้อยู่เลยต้องไปต่อคิวรอ ทีนี้ระหว่างรอก็หันไปมองที่ชั้นสินค้าแล้วไปเจอชั้นวางสินค้ากลุ่มหนังสือการ์ตูน นิตยสารและเกมทั้งหลาย ด้วยความซนที่ยืนรออยู่เฉยๆไม่ได้ไง เลยไปด้อมๆมองๆ คุ้ยๆตรงชั้นวางเกมแล้วพบว่ามีเกมอยู่บนชั้นเยอะจนไม่รู้จะเลือกดูอันไหนก่อน
เลยสงสัยขึ้นมาว่า เออเว้ย ไต้หวันเนี่ยะมันดังเรื่องทำพวกแอปพลิเคชั่นมือถือ ซอฟต์แวร์ แล้วก็เกมจีนต่างๆ ซึ่งตัวเราเองก็ไม่รู้จักไง เพราะว่าโดยปกติแล้ว เกมของไต้หวันมันจะออกมาคล้ายๆกัน เป็นแบบจีนๆ วางแผนๆ แบบพวกสามก๊ก มังกรหยก อะไรนี้เห็นกันจนเบื่อ ถ้าให้คนไต้หวันแนะนำเกมให้เราเล่น มันจะแนะนำยังไง(วะ)
7-11 ไต้หวัน มีพื้นที่พร้อมดื่ม ห้องน้ำ และทุกสิ่งอันที่ต้องการ 55555 |
คือร้านค้าสะดวกซื้อที่นี่ มีหลายแห่งที่จะมีห้องน้ำให้บริการอยู่ด้วย ด้วยความสนทนากันมันส์ไปหน่อย
ก็เลยต้องไปพักปลดทุกข์ที่ห้องน้ำ แต่ห้องน้ำเจ้ากรรมดันมีคนใช้อยู่เลยต้องไปต่อคิวรอ ทีนี้ระหว่างรอก็หันไปมองที่ชั้นสินค้าแล้วไปเจอชั้นวางสินค้ากลุ่มหนังสือการ์ตูน นิตยสารและเกมทั้งหลาย ด้วยความซนที่ยืนรออยู่เฉยๆไม่ได้ไง เลยไปด้อมๆมองๆ คุ้ยๆตรงชั้นวางเกมแล้วพบว่ามีเกมอยู่บนชั้นเยอะจนไม่รู้จะเลือกดูอันไหนก่อน
ชั้นวางสินค้ากลุ่มนิตยสารและ 3cทั้งหลาย ที่มาของวิทยานิพนธ์ |
เกมที่วางขายจะมีลักษณะที่ไม่ต่างกัน เป็นเกมออนไลน์,MOBA, วางแผน,สล็อต
ปนๆกันไปส่วนใหญ่เป็นเกมที่ทำโดยบริษัทไต้หวันหรือจีน |
เลยสงสัยขึ้นมาว่า เออเว้ย ไต้หวันเนี่ยะมันดังเรื่องทำพวกแอปพลิเคชั่นมือถือ ซอฟต์แวร์ แล้วก็เกมจีนต่างๆ ซึ่งตัวเราเองก็ไม่รู้จักไง เพราะว่าโดยปกติแล้ว เกมของไต้หวันมันจะออกมาคล้ายๆกัน เป็นแบบจีนๆ วางแผนๆ แบบพวกสามก๊ก มังกรหยก อะไรนี้เห็นกันจนเบื่อ ถ้าให้คนไต้หวันแนะนำเกมให้เราเล่น มันจะแนะนำยังไง(วะ)
เท่านั้นแหล่ะ ปลดทุกข์เสร็จสรรพก็รีบพุ่งกลับห้องไปปรึกษาเฮียรูมเมทเพื่อนรัก
(รูมเมทที่ผมได้จับคู่ได้บังเอิญเป็นนักศึกษาปริญญาเอกจากประเทศฟิลิปปินส์ชื่อ
อิริค) ว่าเห๊ยเฮีย ผมว่าผมมีโครงการอยากทำประมาณนี้ๆๆ เรื่องเกมอย่างงี้
เอาไปเล่าให้นางฟัง นางก็บอกว่าสามารถทำได้นะต้องลองขึ้นโครงมาก่อน เท่านั้นแหล่ะ รู้ตัวอีกทีกลายเป็นวิทยานิพนธ์ตัวจบของผมไปเรียบร้อย
5555
3.
เลือกจากอาจารย์ที่เป็นอาจารย์สอนเต็มเวลาในคณะและภาควิชาที่เราเรียนอยู่
วิธีนี้เป็นหนึ่งในวิธีที่สืบทอดกันมายาวนานระหว่าง นักเรียนต่างชาติที่เรียนกันมา คือเงื่อนไขมีเพียงอยู่อย่างเดียว คือเลือกอาจารย์ที่ดูจะเป็น “โค้ช” ที่ดูแลลูกๆในทีมได้ดีสุด ดีในที่นี้คืออะไร? ดีในที่นี้คือจากประวัติศาสตร์สถิติ คนที่เข้าไปอยู่เป็นมินเนี่ยนของเค้า สามารถจบกันออกมาได้ตรงต่อเวลาและได้แก้ไขงานของตัวเองน้อยที่สุด (แปลง่ายๆว่าเผชิญวิบากกรรมน้อยที่สุดนั่นแหล่ะ) วิธีนี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่อินดี้ หรือมีแนวความคิดเป็นของตัวเอง รู้อยู่แล้วว่าตัวเองต้องการจะทำเรื่องอะไร เพราะว่าเราจะต้องทำตามวิธีที่อาจารย์แนะนำ หรือปรับตามที่อาจารย์ต้องการ เพื่อจบตามกระบวนการที่อาจารย์เค้าคาดคะเนไว้ให้
คำถามต่อมาคือ
จำเป็นไหมที่จะต้องเป็นอาจารย์ที่สอนเต็มเวลาในคณะเท่านั้น ?
คำตอบคือจำเป็นครับ เพราะว่าอาจารย์ที่ไม่ได้สอนเต็มเวลาเนี่ยะ หลายๆครั้งเค้าอาจจะมีภารกิจไปนู่นนี่นั่น ซึ่งเวลาเราเกิดปัญหาระหว่างการทำวิจัยขึ้นมา ชีวิตอาจถึงขั้นพังพินาศได้เพราะว่า เวลาของเรากับอาจารย์ไม่ตรงกัน และทำให้การจัดการขั้นตอนต่างๆช้าเกินกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นอาจารย์คณะเราดีที่สุดครับ
คำตอบคือจำเป็นครับ เพราะว่าอาจารย์ที่ไม่ได้สอนเต็มเวลาเนี่ยะ หลายๆครั้งเค้าอาจจะมีภารกิจไปนู่นนี่นั่น ซึ่งเวลาเราเกิดปัญหาระหว่างการทำวิจัยขึ้นมา ชีวิตอาจถึงขั้นพังพินาศได้เพราะว่า เวลาของเรากับอาจารย์ไม่ตรงกัน และทำให้การจัดการขั้นตอนต่างๆช้าเกินกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นอาจารย์คณะเราดีที่สุดครับ
วิชา Production & Operation Managment โดย Prof.Don หนึ่งในสุดยอดอาจารย์ของรุ่น |
**หมายเหตุตัวโตๆ**
สำหรับวิธีนี้เทอมแรกอาจจะลองลงหลายๆวิชาที่มีอาจารย์แตกต่างกันไป
เพราะว่าเราจะได้รู้ว่าเราชอบเรื่องแนวไหน สไตล์การสอนของอาจารย์คนไหน
แล้วจะได้ดูว่าคนไหนเหมาะเป็นโค้ชของเราที่สุด
เคล็ดไม่ลับในการขออาจารย์ที่อยากให้เป็นที่ปรึกษามาเป็นที่ปรึกษา
หลังจากที่เลือกได้แล้วว่าอยากให้อาจารย์คนไหนมาเป็นที่ปรึกษา
3.1 ลงวิชาที่อาจารย์สอนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
เพื่อที่เราจะได้เข้าใจวิธีการอธิบาย แนวคิด หรือความเห็นของท่านในมุมมองต่างๆ
และเพื่อแสดงให้เห็นว่าเราสนใจสาขาที่ท่านสอนจริงๆนะ
3.2 ตั้งใจเรียน พยายามให้ความร่วมมือในชั้นเรียนอย่างสม่ำเสมอ
ตอบคำถาม ทำกิจกรรมต่างๆอย่างเต็มที่ เพื่อให้อาจารย์จดจำเราได้และสนใจในตัวเรา
3.3 ลงมือก่อนคนอื่น
พอเรารู้ว่าอยากทำเรื่องอะไรและได้คอนเส็ปโครงเรื่องโดยรวมแล้ว
ติดต่ออาจารย์ไปเลย ถือคติที่ว่า “ลงมือก่อนได้เปรียบ”
เพราะอาจารย์จะได้มองเห็นว่าเราสนใจในหัวข้อและสาขาที่อาจารย์สอนอยู่จริงๆ
4.4 สุดท้ายแล้วคือตั้งใจทำงานวิจัยส่งให้อาจารย์ดูอย่างสม่ำเสมอ
ไม่ขาดช่วง อาจารย์จะได้ช่วยสงเคราะห์ให้เราได้จบๆไปอย่างรวดเร็ว
ซึ่งนอกจากวิธีข้างบนแล้ว ที่เหลือก็จะขึ้นอยู่กับความลึกตื้นหนาบางของหัวข้อที่เราต้องการ
วิจารณญาณของอาจารย์แล้วก็ดวงของผู้ท้าชิงทุกท่านกันแล้วล่ะฮะ
แล้วเดี๋ยวผมจะกลับมาต่อกันในครึ่งหลังว่า หลังจากที่เลือกอาจารย์และได้หัวข้อและทำวิทยานิพนธ์กันไปแล้ว ซึ่งผมจะขอข้ามขั้นตอนการทำไปเพราะว่าแต่ละมหาวิทยาลัยที่นี่มีขั้นตอนในการทำของทั้งรูปแบบการทำและสไตล์การทำของอาจารย์แต่ละท่านจะแตกต่างกันออกไปค่อนข้างชัดเจน โดยเราจะมาดูกันว่าตอนเตรียมตัวสอบจบจะต้องทำยังไงกันต่อบ้างในตอนต่อไป อย่าพึ่งเบื่อกันครับ:)
Highlight Summary:
- การเลือกหัวข้อวิทยานิพนธ์สำคัญ เลือกผิดชีวิตเปลี่ยนถึงขั้นเรียนไม่จบได้
พยายามเลือกหัวข้อที่เราเชี่ยวชาญหรือจากความชอบส่วนตัวเป็นหลัก
- เลือกอาจารย์เหมือนเลือกโค้ช สไตล์แต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป
อยากได้ตีสิสยังไง หรืออยากให้ทางเดินระหว่างทำตีสิสเป็นยังไง ต้องเลือกให้ดี ให้เหมาะกับตัวเอง
- คิดได้ก่อน ได้เริ่มทำก่อน ลุยก่อน จบก่อน ไม่ต้องไฟลนก้นเพราะอาจารย์บางคนดูแลเด็กดี บางคนถือว่าเด็กโตแล้วต้องรับผิดชอบตัวเอง
ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมบางส่วนและรูปประกอบจากGoogle
ติชมก่นด่าชอบแชร์ บอกได้คุยได้ครับบ :)
ตามไปดูชีวิตไร้สาระประจำวันของคนเขียนได้ที่ Instragram: @puipuiiadventure
Highlight Summary:
- การเลือกหัวข้อวิทยานิพนธ์สำคัญ เลือกผิดชีวิตเปลี่ยนถึงขั้นเรียนไม่จบได้
พยายามเลือกหัวข้อที่เราเชี่ยวชาญหรือจากความชอบส่วนตัวเป็นหลัก
- เลือกอาจารย์เหมือนเลือกโค้ช สไตล์แต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป
อยากได้ตีสิสยังไง หรืออยากให้ทางเดินระหว่างทำตีสิสเป็นยังไง ต้องเลือกให้ดี ให้เหมาะกับตัวเอง
- คิดได้ก่อน ได้เริ่มทำก่อน ลุยก่อน จบก่อน ไม่ต้องไฟลนก้นเพราะอาจารย์บางคนดูแลเด็กดี บางคนถือว่าเด็กโตแล้วต้องรับผิดชอบตัวเอง
ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมบางส่วนและรูปประกอบจากGoogle
ติชมก่นด่าชอบแชร์ บอกได้คุยได้ครับบ :)
ตามไปดูชีวิตไร้สาระประจำวันของคนเขียนได้ที่ Instragram: @puipuiiadventure