สวัสดีครัชพ่อแม่พี่น้องญาติสนิทมิตรสหายและผู้อ่านทุกๆท่านนน
(+_+)/
วันนี้จะมาต่อในเรื่องของการยื่นเอกสารและการดำเนินการต่างๆที่ต้องมีการติดต่อกับสถานฑูตนะครับบบ
อ้างอิงจากตอนที่แล้ว (ตอนที่ 4.1 ใครที่ยังไม่เคยอ่าน ลองกลับไปอ่านดู
อ่านตั้งแต่ตอนที่1 เลยก็ดีนะก๊าบ) หลังจากที่เราเตรียมเอกสารทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว
เราต้องทำการยื่นขอรับรองเอกสารจาก “สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป” (จะขอเรียกว่าสถานฑูตนะครับ)
เพื่อให้ทางหน่วยงานราชการจากประเทศไต้หวันรับรองว่าเอกสารเหล่านี้เป็นของจริงและสามารถใช้อ้างอิงได้ในการทำธุรกรรมในประเทศไต้หวันครับ
ซึ่งสามารถเข้าไปหารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานฑูตได้จากลิ๊งค์ข้างล่างนี้เลยครับ
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารที่จะต้องใช้ประกอบ
สามารถอัพเดทการเปลี่ยนแปลงได้จากลิ๊งนี้ครับผม
http://www.boca.gov.tw/np.asp?ctNode=776&mp=2
สำหรับเอกสารที่จำเป็นต้องเตรียมนอกเหนือจากเอกสารที่เราต้องการขอรับรองแล้วมีดังนี้ครับ
1. สำเนาหนังสือเดินทาง ( passport copy) 1ชุด
= สำหรับผม ผมเตรียมตัวจริงไปด้วย เผื่อเค้าถามครับผม
= สำหรับผม ผมเตรียมตัวจริงไปด้วย เผื่อเค้าถามครับผม
2. กรณีศึกษาต่อแนบเอกสารเกี่ยวข้องกับสถาบันหรือมหาลัยที่จะไปเรียน
เช่นใบตอบรับจากทางมหาลัยหรือใบสมัครเรียน
กรณีไปทำงานแนบเอกสารเกี่ยวข้องจากทางบริษัท เช่นใบจ้างงาน ใบตอบรับการทำงาน ใบรับรองการว่าจ้าง
= แนบใบสมัครที่เรากรอกจากทางมหาวิทยาลัยพร้อมลงชื่อแล้ว ปริ้นท์ออกมาแล้วแนบมาด้วยครับ สำหรับมหาวิทยาลัยที่ต้องการให้เราส่งเอกสารที่ผ่านการรับรองแล้ว(ผ่านการอัพโหลดทางอินเทอร์เน็ต) ผมแนะนำให้ลองส่งอีเมล์ไปถามทาง OIA ของคณะนั้นๆว่าเราต้องใช้ใบสมัครที่กรอกครบแล้วยื่นไปก่อน แล้วเราจะแสกนส่งเค้าทีหลังก็ได้ครับ
3. เอกสารที่จะรับรอง ที่ออกจากหน่วยงานไทย ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ ผ่านการรับรองจากกระทรวงการต่างประเทศไทย
(โทร 02 5751056-59 ) ต้นฉบับพร้อมสำเนา 1 ชุด
= ซึ่งถ้าออกจากมหาวิทยาลัยโดยตรง หรือว่าธนาคารของรัฐสำหรับใบStatement ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแต่ถ้าเป็นเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานเอกชนควรจะมีไปด้วย ซึ่งเอกสารตัวนี้ผมไม่ได้ใช้ครับ
กรณีไปทำงานแนบเอกสารเกี่ยวข้องจากทางบริษัท เช่นใบจ้างงาน ใบตอบรับการทำงาน ใบรับรองการว่าจ้าง
= แนบใบสมัครที่เรากรอกจากทางมหาวิทยาลัยพร้อมลงชื่อแล้ว ปริ้นท์ออกมาแล้วแนบมาด้วยครับ สำหรับมหาวิทยาลัยที่ต้องการให้เราส่งเอกสารที่ผ่านการรับรองแล้ว(ผ่านการอัพโหลดทางอินเทอร์เน็ต) ผมแนะนำให้ลองส่งอีเมล์ไปถามทาง OIA ของคณะนั้นๆว่าเราต้องใช้ใบสมัครที่กรอกครบแล้วยื่นไปก่อน แล้วเราจะแสกนส่งเค้าทีหลังก็ได้ครับ
3. เอกสารที่จะรับรอง ที่ออกจากหน่วยงานไทย ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ ผ่านการรับรองจากกระทรวงการต่างประเทศไทย
(โทร 02 5751056-59 ) ต้นฉบับพร้อมสำเนา 1 ชุด
= ซึ่งถ้าออกจากมหาวิทยาลัยโดยตรง หรือว่าธนาคารของรัฐสำหรับใบStatement ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแต่ถ้าเป็นเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานเอกชนควรจะมีไปด้วย ซึ่งเอกสารตัวนี้ผมไม่ได้ใช้ครับ
4. กรณีที่ไม่สามารถมายื่นเรื่องเอง จะต้องมี หนังสือมอบอำนาจ พร้อมสำเนาบัตรของผู้รับมอบที่ทางราชการออกให้ (หนังสือมอบอำนาจ มีอายุหกเดือน นับจากวันที่ออก)
* กรณีที่อยู่ในประเทศไทย สามารถมอบอำนาจได้ 3 วิธีดังต่อไปนี้
1 หนังสือมอบอำนาจที่ผ่านกระทรวงการต่างประเทศรับรอง
2 หนังสือมอบอำนาจที่ผ่านการรับรองจาก สำนักงานเขต หรืออำเภอ
3 มอบอำนาจผ่านการรับรองจากทนายความ พร้อมถ่ายบัตรวิชาชีพทนายความที่มีอายุรับรองสำเนาถูกต้องพร้อมลายเซ็น
* กรณีที่อยู่ในประเทศไต้หวัน สามารถมอบอำนาจได้ ดังต่อไปนี้
1 หนังสือมอบอำนาจที่ผ่านกงสุลไทยที่ไทเปรับรอง
2 หนังสือมอบอำนาจที่ผ่านศาลท้องถิ่นไต้หวันรับรองหรือผ่านการรับรองจากกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน
กรณีที่เจ้าตัวอายุไม่ถึง20ปี จะต้องให้ผู้ปกครอง เช่น พ่อ แม่ ยื่นแทนพร้อมเอกสารแสดงความสัมพันธ์
** กรณีอายุครบ 20 สามารถให้ พ่อ แม่ พี่ น้อง มายื่นแทนใช้เอกสารแสดงความสัมพันธ์พร้อมบัตรประจำตัวของ
ผู้มายื่นแทน ไม่ต้องมอบอำนาจ
= ผมแนะนำให้ไปยื่นด้วยตัวเองดีกว่าครับ ตัดปัญหาและไม่เสียเวลานั่งเขียนใบมอบอำนาจ เพราะว่าเราจะต้องกลับมาอีกครั้งเพื่อขอวีซ่าต่อหลังจากที่มหาลัยตอบรับแล้ว แต่ถ้าไม่สามารถจริงๆ ดำเนินการตามข้างบนเลยครับผม
5.กรอกแบบฟอร์มคำร้องรับรองเอกสาร ขอรับแบบฟอร์มได้ฟรี หรือ download จาก www.taiwanembassy.org/th
(กรอกแบบฟอร์มให้ครบ สำหรับผู้รับมอบให้กรอกช่องด้านล่าง )
=เข้าไปกรอกแล้วปริ้นท์กันออกมาเลยจ้า
6. ค่าธรรมเนียมชุดละ 450 บาท ใช้เวลา 2 วันทำการ ไม่นับวันยื่น กรณี เร่งด่วน ใช้เวลา 1 วันทำการ ชุดละ 680
=สำหรับคนที่อยู่ต่างจังหวัดและมีระยะเวลาจำกัด ผมแนะนำให้ทำแบบด่วนครับผม (ยื่นเช้าได้ช่วงบ่าย) เพราะว่าจะประหยัดเวลากว่ามาก แต่ถ้าไม่รีบจะอยู่แวะเที่ยวกรุงเทพ หรือว่าอยู่กรุงเทพอยู่แล้วยื่นแบบธรรมดาก็ได้ครับผม
7. เวลายื่นเรื่อง 09.00-11.30 น.
การรับเอกสาร ตามวันที่นัดซึ่งระบุในใบเสร็จรับเงิน เวลา 13.30-15.00 น.
(กรณีเอกสารมีปัญหาต้องแก้ไข (หลังจากนำเอกสารที่แก้ไขพร้อมสำเนามาแล้วจะนัดรับเอกสารในวันถัดไปในช่วงเวลารับเอกสาร)
= ผมแนะนำว่าให้เดินทางไปถึงตั้งแต่ 8:30 ไปเพราะว่าจะได้ไม่ต้องต่อคิวนานครับผม ขืนไปช่วงใกล้ๆพักเที่ยงคนจะเยอะมาก เผลอๆจะไม่ทันเอา และช่วงบ่ายก็เช่นเดียวกันครับ เพราะว่าจะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาต่อคิวครับผม โดยถ้าไม่สามารถมารับได้ด้วยตัวเองได้ สามารถเอาใบเสร็จรับเงินให้คนอื่นมารับแทนได้ครับผม ย้ำนะครับ ต้องใช้ใบเสร็จรับเงิน เพราะว่าถ้ามาตัวเปล่า เค้าก็ไม่ปล่อยเอกสารออกมาให้เราจ้า
สำหรับคนที่ทำวีซ่าเพื่อที่จะไปท่องเที่ยว ต้องใช้เอกสารตามนี้เลยครัช1. หนังสือเดินทาง (passport) มีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน (สำเนา 1 ชุด + ตัวจริง)
2. รูปถ่ายสีขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป
3. ทะเบียนบ้าน (สำเนา 1 ชุด + ตัวจริง)
4. บัตรประชาชน (สำเนา 1 ชุด + ตัวจริง)
5. หนังสือรับรองการทำงาน และสลิปเงินเดือน / ถ้าเป็นเจ้าของกิจการก็เอาหนังสือรับรองการจดทะเบียนกรรมการมาแสดง (สำเนา + ตัวจริง)
6. หลักฐานการเงินจากธนาคาร หรือสมุดบัญชีเงินฝากถ่ายเอกสาร ย้อนหลัง 6 เดือน (สำเนา 1 ชุด + ตัวจริง)
หมายเหตุ: บางคนสงสัยและถามกันเข้ามาว่าต้องมีเงินในบัญชีเท่าไหร่ ผมขอตอบเป็นกลางๆว่า 1.5หมื่น~5หมื่นนะครับ
เพราะว่าผมเองก็เอาใส่ไว้ในช่วงนั้นเหมือนกัน และต้องถามธนาคารให้ดีด้วยว่าสามารถออกให้สำหรับขอวีซ่าไต้หวันได้รึเปล่าเพื่อความชัวร์ครับ
7. เงินค่าธรรมเนียม เข้าครั้งเดียว= 1,500 หลายครั้ง= 3,000 บาท (ใช้เวลาอนุมัติ 3 วันทำการ) เร่งด่วนแบบเข้าครั้งเดียวเพิ่ม 800 บาท/ หลายครั้งเพิ่มอีก 1,500 บาท
(อัพเดตข้อมูล ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2559)
(กรณีเอกสารมีปัญหาต้องแก้ไข (หลังจากนำเอกสารที่แก้ไขพร้อมสำเนามาแล้วจะนัดรับเอกสารในวันถัดไปในช่วงเวลารับเอกสาร)
= ผมแนะนำว่าให้เดินทางไปถึงตั้งแต่ 8:30 ไปเพราะว่าจะได้ไม่ต้องต่อคิวนานครับผม ขืนไปช่วงใกล้ๆพักเที่ยงคนจะเยอะมาก เผลอๆจะไม่ทันเอา และช่วงบ่ายก็เช่นเดียวกันครับ เพราะว่าจะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาต่อคิวครับผม โดยถ้าไม่สามารถมารับได้ด้วยตัวเองได้ สามารถเอาใบเสร็จรับเงินให้คนอื่นมารับแทนได้ครับผม ย้ำนะครับ ต้องใช้ใบเสร็จรับเงิน เพราะว่าถ้ามาตัวเปล่า เค้าก็ไม่ปล่อยเอกสารออกมาให้เราจ้า
สำหรับคนที่ทำวีซ่าเพื่อที่จะไปท่องเที่ยว ต้องใช้เอกสารตามนี้เลยครัช1. หนังสือเดินทาง (passport) มีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน (สำเนา 1 ชุด + ตัวจริง)
2. รูปถ่ายสีขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป
3. ทะเบียนบ้าน (สำเนา 1 ชุด + ตัวจริง)
4. บัตรประชาชน (สำเนา 1 ชุด + ตัวจริง)
5. หนังสือรับรองการทำงาน และสลิปเงินเดือน / ถ้าเป็นเจ้าของกิจการก็เอาหนังสือรับรองการจดทะเบียนกรรมการมาแสดง (สำเนา + ตัวจริง)
6. หลักฐานการเงินจากธนาคาร หรือสมุดบัญชีเงินฝากถ่ายเอกสาร ย้อนหลัง 6 เดือน (สำเนา 1 ชุด + ตัวจริง)
หมายเหตุ: บางคนสงสัยและถามกันเข้ามาว่าต้องมีเงินในบัญชีเท่าไหร่ ผมขอตอบเป็นกลางๆว่า 1.5หมื่น~5หมื่นนะครับ
เพราะว่าผมเองก็เอาใส่ไว้ในช่วงนั้นเหมือนกัน และต้องถามธนาคารให้ดีด้วยว่าสามารถออกให้สำหรับขอวีซ่าไต้หวันได้รึเปล่าเพื่อความชัวร์ครับ
7. เงินค่าธรรมเนียม เข้าครั้งเดียว= 1,500 หลายครั้ง= 3,000 บาท (ใช้เวลาอนุมัติ 3 วันทำการ) เร่งด่วนแบบเข้าครั้งเดียวเพิ่ม 800 บาท/ หลายครั้งเพิ่มอีก 1,500 บาท
(อัพเดตข้อมูล ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2559)
เล่ามาจนถึงตรงนี้ทุกคนคงจะสงสัยว่า………………..แล้วกงสุลอยู่ไหน????
ที่อยู่ของกงสุล อยู่ตามนี้เลยจ้า
ชั้น 20 เอ็มไพร์ทาวเวอร์ (Empire
Tower) 195 ถ.สาทรใต้ กทม. 10120
โดยถ้ากลัวหลงสามารถโทรไปถามข้อมูลก่อนได้ที่เบอร์ : 0-2670-0200-9 / Fax : 0-2670-0220
โดยลงที่สถานีช่องนนทรี ออกทางออกหมายเลข 5 แล้วเดินต่อไปอีกหน่อยก็จะถึง โดยแลกบัตรประชาชนที่ประชาสัมพันธ์ข้างล่างแล้วขึ้นไปเลยครับผม
โดยถ้ากลัวหลงสามารถโทรไปถามข้อมูลก่อนได้ที่เบอร์ : 0-2670-0200-9 / Fax : 0-2670-0220
โดยลงที่สถานีช่องนนทรี ออกทางออกหมายเลข 5 แล้วเดินต่อไปอีกหน่อยก็จะถึง โดยแลกบัตรประชาชนที่ประชาสัมพันธ์ข้างล่างแล้วขึ้นไปเลยครับผม
ซึ่งหลังจากที่เรารับเอกสารมาแล้วก็ให้เราแสกนแล้วอัพโหลดส่งไปให้ทางมหาวิทยาลัยเพื่อประกอบการพิจารณา
ว่าจะรับเราเข้าไปเรียนหรือเปล่า ซึ่งเราต้องติดตามผลจากเว็บไซต์ OIA ของทางมหาวิทยาลัยด้วยตนเอง และหลังจากที่ประกาศชื่อแล้ว
เราต้องไปกดยืนยันว่าเราจะเข้าเรียน หลังจากนั้นก็จะเป็น
ขั้นตอนของการเตรียมตัวเข้าไปศึกษาที่รั้วมหาวิทยาลัยต่อ
ซึ่งทางมหาวิทยาลัยก็จะส่งรายละเอียดและแจ้งให้เราทราบเป็นพักๆ
แต่ผมแนะนำว่าควรจะติดตามรายละเอียดโดยการเข้าไปเช็คที่ OIA ทุกวัน
เช้ากลางวันเย็น จะทำให้ทุกอย่างเพอเพ่คและไม่พลาดรายละเอียดเกี่ยวกับผลประโยชน์ของตัวเราเองจ้า
Credit: ขอบคุณข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป พี่หมี อดีตประธานสมาคมนักเรียนไทยเฉิงต้าปี 2011-2012
เพจสมาคมนักเรียนไทยในไต้หวัน (TSAT) และเพจสมาคมนักเรียนไทยเฉิงต้า (TSA-NCKU) ครับบ
หมายเหตุ* รอบ Fall semester ของ National Cheng Kung University และอีกหลายๆมหาวิทยาลัยกำลังจะเปิดให้สมัครตั้งแต่หลังปีใหม่เป็นต้นไป ใครสนใจ ควรเริ่มติดตามกันได้แล้วครับผม :)
Highlight Summary:
- เอกสารที่เตรียมไปอย่าลืมตรวจทานซ้ำ เพราะว่าทางสำนักงานการค้าฯจะเปิดเป็นรอบๆ พลาดแล้วพลาดเลยต้องไปรออีกรอบ
- ตึกอยู่เอ็มไพร์ทาวเวอร์ สาธร
- ปัจจุบันไปเที่ยวไม่ต้องขอแล้ว แต่ว่าเรียนยังต้องขออยู่
- สำหรับคนที่ไปเรียนภาษาก่อน แนะนำให้ตรวจสอบกับทางสถาบันภาษาก่อนว่าต้องยื่นเรื่องขอวีซ่าแบบไหน
Credit: ขอขอบคุณข้อมูลและรูปประกอบจาก Google, NCKU และ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ครับ
ตามไปดูชีวิตไร้สาระประจำวันของคนเขียนได้ที่ Instragram: @puipuiiadventure
ปล. ถ้าเขียนไม่ดี ติดขัดตรงไหนสงสัยอะไรสอบถามกันเข้ามาได้ตรงที่คอมเม้นท์เลยเหมือนเดิมนะก๊าบบ ขอบคุณก๊าบบบ