Tuesday, September 6, 2016

ตอนที่13 : Back to School (คอร์สเรียน บัตร ARC และ บัตรทองเวอร์ชั่นไต้หวัน)

กริ๊งงงงงงงงงงงง


แปดโมงเช้า จันทร์ที่ xxx กันยายน 2012

เป็นวันแรกที่ต้องกลับเข้าสู่ห้องเรียนอีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายจากชีวิตนักศึกษาไปพักใหญ่ๆ

ใช่แล้วครับ วันนี้เป็นวันแรกที่จะต้องไปเข้าพิธี (จะเรียกว่าพิธีก็ไม่ถูก เหมือนเป็นแนะแนวการเข้าเรียนมากกว่า) ซึ่งปกติแล้วจะเป็นวันทีทางคณะจะเรียกนักศึกษาหน้าใหม่มาทำความรู้จักกับตัวคณะ และสิ่งต่างๆที่จะต้องเตรียมและดำเนินการเพื่อเข้าเป็นนักศึกษาของคณะอย่างเต็มตัว โดยเมื่อไปถึงส่วนใหญ่จะแบ่งช่วงประมาณนี้

1. แนะนำคณะ คณาจารย์และบุคลากรของคณะ
 ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เราจะต้องเริ่มทำตัวเป็นโคนัน และสังเกตว่าอาจารย์คนไหนสอนเกี่ยวกับด้านอะไร
เพราะว่าเราจะได้เลือกลงวิชากับอาจารย์คนนั้นๆได้ถูกและขอเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาเวลาทำวิทยานิพนธ์ได้
(ถ้าอยากได้อาจารย์คนไหนเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาผมแนะนำให้ไปลงตัวของเค้าเยอะๆจะได้สนิทกันมากขึ้น) 

2. คอร์สการเรียน ตัวจำเป็นที่จะต้องลงและขั้นตอนในการเรียนและสอบจบ
*แต่ละมหาวิทยาลัยจะมีขั้นตอนบางขั้นที่ต่างกันออกไปครับ*
- ช่วงจากประสบการณ์ตรง
2.1ทางคณะจะมีเปิดวิชาให้เรียนแบ่งเป็น Core course และ Elective cours
ซึ่งเราจะต้องลง Core Course ให้ครบตามจำนวนที่ทางคณะกำหนดไม่งั้นจะไม่สามารถทำวิทยานิพนธ์ได้ 
2.2 แนะนำให้อัดตัวเรียนให้หมดภายในเทอมแรกๆเพราะถ้าดวงดีเทอมสุดท้ายอาจจะไม่ต้องมีเรียนเลย
ทำให้มีเวลาเที่ย ทำวิทยานิพนธ์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งบางคณะเค้าจะต้องมีการพิจารณาเกรดจากเทอมแรกเพื่อที่จะอนุมัติให้ลง
ได้เกินกำหนดปกติได้ในเทอมสอง เพราะฉะนั้นอาจจะต้องตั้งใจเรียนกันหน่อย    
3. แนะนำตัว น.. แต่ละคนแบบสั้นๆ 
หากใครมีชื่อภาษาไทยที่อ่านยากหรือว่าดูแล้วไม่คิดว่าชื่อตัวเองเป็นมงคลแต่ไม่อยากเปลี่ยนชื่อ ขอแนะนำให้ทำการเบิ้ลชื่อครับ มันจะกลายเป็นชื่อขึ้นมาได้โดยทันทีอย่างผมชื่อเล่นชื่อปุ้ย แล้วด้วยความจนปัญญาไม่รู้จะเอาชื่ออะไรดีเลยเบิ้ลเป็น Puipuii ไปเลย
เพราะว่าบางทีชื่อคนไทยที่มีคำเดียวเพื่อนาวต่างชาติอาจจะงงว่ามันเปนชื่อเล่นยังไงครับ หรือว่าจะเปลี่ยนเป็นชื่ออังกฤษไปเลยก็ได้เพื่อความเข้าใจตรงกัน

4.  แนะนำสวัสดิการและการติดต่อกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง (ห้องสมุด, ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์, ฯลฯ) 
หลักๆจะเป็นช่วงแนะนำว่าเราสามารถใช้อะไรของมหาวิทยาลัยได้บ้าง และเวลามีปัญหาในด้านการใช้ชีวิตหรือด้านไหนจะต้องติดต่อใครก่อน ปกติแล้วส่วนตัวถ้ามีปัญหาที่เกี่ยวกับการเรียนจะไปที่ฝ่ายดูแลนักศึกษาในคณะ แต่ถ้าเป็นด้านสวัสดิการหรือเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนผมจะไปที่ OIA เพราะว่าทางนั้นจะมีบุคลากรที่ช่วยสื่อสารแทนเราได้ครับ

5. การทำเอกสารต่างๆ (ขึ้นทะเบียน นักศึกษา ทำบัตร ARC ทำบัตรประกันสุขภาพ)
โดยในคราวนี้ผมจะขออธิบายถึงในส่วนของการทำเอกสารต่างๆแทน
อย่างแรกเลย สิ่งที่นักศึกษาใหม่จะต้องมีติดตัวอยู่ตลอดเวลาในช่วงแรกที่มาเรียน ชนิดที่ว่าห้ามหายคือ

1. หนังสือเดินทาง
เพราะว่าเรายังไม่มีบัตร Alien Residence Visa Card (ARC) (เดี๋ยวจะอธิบายต่อด้านล่างนะครัช) ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องมีหนังสือเดินทางติดตัวทุกครั้งเวลาที่จะต้องมีการติดต่อกับหน่วยงานของรัฐหรือมหาวิทยาลัย แนะนำให้ทำสำเนาเก็บไว้จำนวนหนึ่ง เผื่อกรณีที่สูญหาย

2. เอกสารยืนยันการเข้าเรียน
จะเป็นกระดาษขนาด A4 ที่ระบุรายละเอียดการตอบรับการเข้าเรียนของเรา ซึ่งจะมีตรามหาวิทยาลัยตัวโตๆ (เหมือนลายน้ำ)แปะอยู่ เป็นหนังสือที่จะยืนยันว่าเราเป็นนักศึกษาของมหาลัยก่อนที่เราจะได้รับบัตรประจำตัวนักศึกษา ซึ่งในบางกรณี เอกสารตัวนี้อาจจะต้องถูกถามถึงบ้างเป็นบางครั้ง
โดยเอกสารทั้งสองตัวนี้ ขอย้ำเลยว่าจะต้องกำไว้ให้แน่นตลอดช่วงแรกที่เริ่มใช้ชีวิตในไต้หวัน จนกว่าที่เราจะได้ทั้งบัตร ARC และบัตรประกันสุขภาพ National Health Insurance (NHI)
หลายคนอาจจะเคยได้ยินจากรุ่นพี่ ศิษย์เก่า หรือคนที่เคยไปอยู่ที่ไต้หวันกันมาบ้างสำหรับเจ้าบัตรทั้งสองประเภทนี้ เราจะมาทำความรู้จักกันว่า เจ้าบัตรสองประเภทนี้คืออะไรแล้วมันมีความสำคัญกับชีวิตของเราในไต้หวันกันยังไงบ้าง

บัตร Alien Residence Visa Card (ARC)
เจ้าบัตรนี้เปรียบเสมือนกับบัตรประจำตัวประชาชนของเราตลอดระยะเวลาที่เราพำนักอยู่ในไต้หวัน โดยในบัตรจะมีรายละเอียดข้อมูลของเราทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับไต้หวัน (ชื่อ ที่อยู่ ประเทศ และหมายเลขบัตรประจำตัวคนต่างชาติในไต้หวัน) โดยเราจะต้องแสดงบัตรนี้ ทุกครั้งพร้อมหนังสือเดินทางเวลาเดินทางออกนอกประเทศ หรือเดินทางกลับไต้หวันให้แก่เจ้าหน้าที่เช็คอิน
หรือแม้กระทั่งไปเที่ยวสถานเริงรมย์ยามราตรี(ผับ บาร์) เราจะต้องเอาบัตรนี้โชว์ให้การ์ดทุกครั้ง ว่าเราสามารถเข้าได้โดยไม่ผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้นถือว่าเป็นบัตรที่ ห้ามหาย เป็นอันขาด

หน้าตาของบัตร ARC (ของปลอมนะจ๊ะ เพนกวินทำไม่ได้ฮะ)

แล้วเจ้าบัตรนี้ทำยังไง
สำหรับมหาวิทยาลัยที่มีจำนวนนักศึกษาต่างชาติเป็นจำนวนมาก จะมีวันนึงที่เค้าจะนัดหมายเจ้าหน้าที่จาก immigration office มาช่วยทำบัตรให้แก่นักศึกษา โดยเราจะต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ไปด้วย
1. หนังสือเดินทางตัวจริงพร้อมวีซ่าเดินทางเข้าไต้หวันครั้งแรก + สำเนา
2. รูปถ่ายหัวโต ขนาดประมาณวีซ่า สามารถสอบถามได้จากร้านถ่ายรูปบริเวณมหาลัยเพื่อให้เค้าถ่ายให้เราได้ก่อน
ไปที่ร้านบอกเค้าว่าอยากได้แบบหัวโต
(大頭-ต้าโถว) บอกเค้าไปเลยว่าเอามา 6 รูป พอถ่ายเสร็จเค้าจะนัดเรามาเอาอีกที
บางร้านตอนไปรับเค้าจะแถมซีดีให้ด้วยเผื่อให้เราเอาไปอัดที่อื่น (ผมใช้ซีดีแผ่นนั้นจนถึงทุกวันนี้)
3. หนังสือรับรองการเข้าเป็นนักศึกษามหาลัยจากทางมหาวิทยาลัย (บอกแล้วอันนี้ห้ามหาย อย่างน้อยๆต้องมีตัวสำเนาเก็บไว้ด้วย)
4. หนังสือรับรองการตรวจสุขภาพ(ใบรับรองสุขภาพ) 

*สำคัญ*
หมายเหตุไว้ตัวโตๆเลย ตัวนี้เป็นหนึ่งในสิ่งที่ยุ่งยากที่สุดและเสียเวลามากที่สุดในขั้นตอนทั้งมวล คือไอ้เจ้าใบนี้จะเป็นตัวยืนยันสุขภาพของเราตามระเบียบการของรัฐบาลไต้หวัน โดยที่เราจะต้องทำการตรวจโรคตามระเบียบการที่เค้าต้องการ –ทั้งหมด-
และจะสามารถตรวจได้ตามโรงพยาบาลต่อไปนี้เท่านั้น และที่สำคัญคือใบนี้จะต้องมีอายุไม่เกิน 3 เดือน

1. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
2. โรงพยาบาลศิริราช
3. โรงพยาบาลราชวิถี
4. โรงพยาบาลรามาธิบดี
5. โรงพยาบาลมหาราช
6. โรงพยาบาลลำปาง

ถ้าจำไม่ผิดจะเรียกว่าการตรวจสุขภาพแผน B ซึ่งเราจะต้องทำการตรวจแบบละเอียดรวมถึงได้ฟิล์มกับสมุดเล่มเล็กๆสีเหลืองมาด้วย ขอให้เอาเอกสารพวกนั้นมาด้วยฮะ
(ส่วนตัวผมไปทำที่โรงพยาบาลลำปางมาครับ)

****ซึ่งบัตรนี้จำเป็นต่อการเปิดบัญชีธนาคารหลังจากที่ได้บัตรมาแล้ว****

หลังจากที่ดำเนินการกับบัตร ARC ยังมีอีกบัตรหนึ่งที่เราต้องมีติดตัวไว้ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในไต้หวันนั่นก็คือ

บัตร National Health Insurance (NHI)
ซึ่งเจ้าบัตรตัวนี้เหมือนเป็นบัตรทองของเราในทุกกรณีที่เราต้องไปข้องเกี่ยวกับ หมอๆพยาบาลๆและหยูกยาทั้งหลายครับ
บัตร NHI จะเป็นบัตรที่เก็บข้อมูลทุกอย่างด้านสุขภาพของเราไว้และรวมไปถึงการรับสวัสดิการจากทางภาครัฐทั้งหมดด้วย
เราจะต้องมีติดตัวทุกครั้งเวลาที่ไปหาหมอ รับการตรวจ หรือขั้นตอนการจ่ายยา ยกตัวอย่างง่ายๆ เวลาไปรักษาโรคไข้หวัดที่นี่ ถ้าหากไม่มีบัตร NHI ไปด้วยอาจจะต้องเสียค่าหมอรวมถึงยาสูงกว่าการใช้บัตร  โดยระบบการรักษาของที่นี่จะเป็น one stop service คลินิก คือ รับบัตรคิวและลงทะเบียน ตรวจ แล้วจ่ายยาเลยฮะ แต่ถ้าเรามีบัตรนี้ รวมค่าตรวจและค่ายาแล้วอาจจะไม่ถึง 300ntd ก็เป็นได้

หน้าตาของบัตร National Health Insurance หรือรู้จักกันดีในชื่อ NHI

สำหรับวิธีการทำบัตร NHI นั้นทางมหาวิทยาลัย (หน่วยนิเทศ Office of International Affair OIA) จะมีการนัดนักศึกษาต่างชาติพร้อมกันและให้บุคลากรจากโรงพยาบาลมาให้บริการตรวจเช็คและทำบัตรให้ (สำหรับมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ) ซึ่งเราต้องเตรียมเอกสารไปตามที่ทางนั้นแจ้งมา ซึ่งโดยหลักๆแล้ว อย่าลืมนำใบตรวจสุขภาพที่เคยตรวจตอนอยู่ไทยไปด้วยก็ถือว่าใช้ได้แล้วครับ

รายละเอียดในส่วนของบัตรประจำตัวที่นักศึกษาจะต้องมีและเตรียมตัวก็จะประมาณนี้ ซึ่งอาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันไปตามแต่ละมหาวิทยาลัยอีกทีครับผม


Highlight Summary:
- วันเข้าเรียนวันแรกและ Orientation ไม่ควรพลาดที่จะเข้าเพราะว่าอาจจะพลาดข้อมูลสำคัญๆหลายอย่าง
- พยายามจำอาจารย์และโครงสร้างหลักสูตร การลงตัวเรียนให้ได้ เพราะว่าเลือกอาจารย์ได้ก่อนมีชัยไปกว่าครึ่ง
- เอกสารทุกอย่างที่เค้าให้มาจากเมืองไทย ห้ามหาย และเตรียมเอกสารจำเป็นที่เคยรับรองเอาตัวจริงมาด้วย
- บัตร ARC เป็นบัตรประชาชนของเราที่นี่ ห้ามหาย ห้ามปล่อยให้หมดอายุ ส่วนบัตร NHI มีค่าดั่งทองเพราะ
จะช่วยลดค่าใช้จ่ายเวลาเราไม่สบาย หรือขูดหินปูนได้แบบแทบจะทำฟรี 



ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมบางส่วนและรูปประกอบจากGoogle
ตามไปดูชีวิตไร้สาระประจำวันของคนเขียนได้ที่ Instragram: @puipuiiadventure
ปล. ตอนนี้หลายๆคนรุ่นปัจจุบันอาจจะมาถึงแล้ว หากมีข้อสงสัยอะไรสามารถแปะไว้ที่คอมเมนท์ได้ฮะ จะพยายามช่วยหาคำตอบให้นะครับผม :)